multi-function tasking จัดเวลาให้ลงตัว เพื่อชีวิตหลายภาคของ“เธอ”


ความฝันเป็นสิ่งที่ใครหลายคนกำลังไขว่คว้า กว่าจะถึงเส้นทางที่ถูกใช่อาจจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคความยากลำบากกว่าจะไปถึงจุดที่ตั้งเป้าหมายไว้ การจะนำเราไปสู่ความสำเสร็จ หัวใจสำคัญคือการจัดสรรเวลาเพื่อที่จะได้แบ่งภาคของชีวิตไปทำในสิ่งที่ต้องการ เช่นเดียวกันชีวิตหลายภาคของเธอคนนี้ ผู้มีเป็นทั้งลูกสาว และนักเขียนมากฝีมือ ที่สามารถทำทุกๆอย่างไปพร้อมกัน “พาย ภาริอร วัชรศิริ”

ด้วยความที่คุณพายต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ซีกซ้ายมาตั้งแต่สมัยเรียน ความเข้มแข็งของสองคู่คิดคู่แม่ลูกทำให้คุณพาย มีวิธีจัดสรรชีวิตโดยอัตโนมัติที่สามรถจัดการหลายๆสิ่งไปพร้อมกันอย่างไม่จำกัด

คุณพายเล่าว่าได้เข้าสู่เส้นทางนักเขียนมาตั้งแต่สมัยเรียน เนื่องจากมักจะส่งงานเขียนเข้าประกวดและเขียนเพื่อหาค่าขนมอยู่เป็นประจำ การฝึกปรือนี้เองที่ทำให้คุณพายลงลึกเข้าสู่เส้นทางนักเขียน กระหายความรู้และเติมเต็มข้อมูลอย่างไม่รู้จบจากการพูดคุยกับบุคคลต่างๆยิ่งพอกพูนประสบการณ์อย่างไม่หยุดนิ่ง และการที่จะทำให้ทุกอย่างมีมันประสิทธิภาพเราต้องจัดการระบบการทำงานของเราเองให้ได้อย่างมีเรียบ เพราะว่าทุกอย่างมีเดธไลน์ในตัวมันเอง ต้องรู้ว่าควรจะสิ่งไหนควรทำก่อนและหลัง จากนั้นจัด calendar ของงานแต่ละงานให้ชัดเจน

12923334_10208600172141662_5337806927181219981_n

หลายคนจะมองว่าการทำงานเยอะๆแล้วงานจะโหลดทำไม่ทัน โดยส่วนตัวคุณพายให้ความเห็นว่าถ้าเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังได้ยังไงงานก็สามารถทำเสร็จทันแน่นอน ด้วยเธอนั้นนอกจากจะทำงานประจำแล้วยังมีภาคที่ต้องดูแลคุณแม่ ซึ่งมันทำให้เธอได้ฝึกความรับผิดชอบและฝึกการทำอะไรได้หลายๆอย่างในเวลาเดียว ซึ่งช่วงแรกอาจจะทำได้ไม่เร็ว แต่เมื่อฝึกไปเรื่อยๆทักษะมันจะเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้องไม่เสียโฟกัสเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปด้วย จะทำให้การทำงานดียิ่งขึ้น โดยจะต้องมีระเบียบวินัยต่อตนเองสูงมาก ถ้าเรารู้ว่าเราทำงานเต็มที่ เวลาที่เราจะพักเราก็พักเต็มที่เช่นกัน

13043729_10208689044403413_573110227482129704_n

โดยปัจจัยคุณพายมีภาคในการทำงานที่หลากหลายทั้งเป็นนักเขียน เป็นผู้ดูแลคุณแม่ เป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์และเป็นผู้ช่วยอาจารย์ กว่าจะทำทั้งหมดนี้ให้สำเร็จ คุณพายบอกว่าเราต้องเป็นตัวเองให้เป็น multi-function tasking ที่สามารถทำหลายอย่างพร้อมกันได้ เมื่อถึงจุดที่เรามีทักษะ ทุกอย่างมันจะเข้าล็อคของมันเองเหมือนการสับสวิทโหมด นอกจากฝึกตนเองให้เป็นระบบอัตโนมัติแบบนี้แล้วเราต้องรู้จักเลือกงานที่จะ เช่นการทำงานหลายสิ่งพร้อมๆกันเราต้องมีงานที่ใช้ความคิดและงานที่ใช้อารมณ์ในการดำเนิน เพื่อที่จะทำให้สมองและประสิทธิภาพของเราใช้ได้เต็มที่เพราะว่างานที่ใช้อารมณ์เราสามารถใช้เป็นกิจกรรมคลายเครียดได้

ไม่ว่าคุณจะทำอะไร สำคัญคือการเลือกงานที่เหมาะสมกับคุณ รู้ขีดจำกัดของตัวองต้องมีความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัยต่อตัวเอง ต่อให้มีความขี้เกียจมากแค่ไหนเมื่อถึงจุดๆที่ลงล็อคทุกอย่างลงตัวแล้ว เราจะมีความสุขกับสิ่งที่เราทำและอยากจะทำมันต่อไปเรื่อยๆ หรือ hard work play hard นั่นเอง

13902638_10209565166345914_2397990206160136381_n

“การที่เราเป็นmulti-function tasking เราทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว มันจะดูเหมือนเยอะซึ่งจริงๆ พอเราเป็นแบบนี้เราสามารถจัดเวลาให้ตัวเองได้ เราทำงานไปด้วยแต่ใส่เวลาส่วนตัวเราก็ยังมีเวลาพักผ่อนออกไปเที่ยวกินข้าวนอกบ้านได้เหมือนคนทั่วไป ดังนั้นการที่ทำงานเยอะๆไม่ได้แปลว่าชีวิตส่วนตัวมันจะหายไปเลยสักหน่อย แค่รู้จักจัดเวลาให้เข้าที่เข้าทางแค่นั้นเอง”

By : ภาวิณี กรเกษม