ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
หากย้อนกลับไปในปี 2016 ที่ผ่านมา แบรนด์สมาร์ทโฟนจีนถือเป็นหนึ่งทางเลือกใหม่ในการล่อตาล่อใจในการตัดสินใจซื้อจากผู้บริโภคทั่วโลก เมื่อมองดูตลาดการแข่งขันของสมาร์ทโฟน พบว่า 3 แบรนด์สมาร์ทโฟนของจีนผลักตัวเองเข้าไปอยู่ใน Top 5 ของโลก (ตามหลัง Sumsung และ Apple) โดยมีค่าขนส่งที่มีมูลค่าถึง 316 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าทั้งหมดทั้งหมด 1.47 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา
เมื่อลงรายละเอียดค่าขนส่งของ 3 แบรนด์สมาร์โฟนจีนที่มีมูลค่า 316 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย Huawei Oppo และ Vivo ที่มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดทั้งในอินเดียและบราซิล
จับตามองแบรนด์สมาร์ทโฟนจีน
อีกก้าวที่สำคัญของสมาร์ทโฟนจีนในปีที่ผ่านมา นั่นคือเป็นครั้งแรกที่ขายผลิตภัณฑ์ได้มากกว่าคู่แข่งอย่าง Sumsung แบรนด์จากเกาหลีใต้ที่ครองตลาดมาตั้งแต่ปี 2011 โดย Huawei คือแบรนด์ชั้นนำของจีนที่ก้าวเข้าไปสู่ Top 5 ของตลาดสมาร์ทโฟนตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งมีโอกาสที่จะกำราบ Sumsung ลงได้ ซึ่งทางบริษัทได้สร้างสถิติการจัดส่งสมาร์ทโฟนใหม่ด้วยมูลค่า 139.3 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 9.5 ของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
ด้าน Richard Yu ผู้บริหารกลุ่มผู้บริโภคของ Huawei ตั้งเป้าขยับตัวเองขึ้นรั้งแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับสองรองจาก Apple ภายในปี 2018
“เราเคยประกาศเมื่อ 4 ปีที่แล้วว่าเราต้องการจะขายโทรศัพท์มือถือ มีแต่คนบอกว่าเราบ้า เพราะเราเริ่มต้นจากการทำอุปกรณ์เกี่ยวกับโทรคมนาคม เมื่อเราจะขายโทรศัพท์มือถือให้ได้ 100 ล้านเครื่อง จึงไม่มีใครเชื่อสักเท่าไร”
ทั้งนี้ ปัจจุบัน Huawei กำลังมองหาตลาดใหม่ โดยมองไปที่สหรัฐฯ เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ เหมาะสำหรับการส่งเสริมการขาย รวมถึงยังมี Scarlet Johansson ดาราฮอลีวูดชื่อดังที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์ เพื่อเจาะตลาดนักช็อปชาวมะกัน
ข้อมูลจาก techinasia
