จิ้มจุ่มหม้อเบ้อเร่อ เริ่มจาก 15 โต๊ะ สู่ 60 โต๊ะภายใน 3 เดือน ขนาดร้านในห้างยังอาย


ธุรกิจอาหารที่แม้จะมีการแข่งขันอย่างสูง

แต่ก็ยังมีร้านอาหารหน้าใหม่แบรนด์เล็ก ที่สามารถแจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคุณฐิติพงศ์  เนตรพวง เจ้าของร้าน จิ้มจุ่มหม้อเบ้อเร่อ ผู้ที่เริ่มต้นจากการอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง จนได้เข้ามาสู่วงการร้านอาหาร ด้วยเอกลักษณ์ในการจัดการร้าน และสร้างรูปแบบให้ดึงดูด จนสามารถยึดครองใจกลุ่มลูกค้าได้จนถึงทุกวันนี้

จากเจ้าของร้านวัยรุ่นอายุน้อย เริ่มต้นจากเงินทุนที่ไม่เยอะ ทำเลที่ราคาถูก จาก 15 โต๊ะ ในวันเริ่มต้นกิจการ แต่มีลูกค้ารอมากถึง 60 คิว จนต้องขยายโต๊ะเป็น 60 โต๊ะ ภายใน 3 เดือน สามารถสร้างรายได้ในแบบที่ร้านในห้างยังอาย นั่นก็คือ จิ้มจุ่มหม้อเบ้อเร่อ สาขา นนทบุรี เจ้าของสโลแกน “หม้อโคตรใหญ่ ให้โคตรเยอะ”

ซึ่งเอกลักษณ์สิ่งที่แปลกของจิ้มจุ่มเราคือ ถาดอาหารที่ใหญ่ ขายเป็นเซต และด้วยความคิดว่าจะทำอย่างไรให้แตกต่าง จึงมีไอเดียที่เน้นความใหญ่ และใส่อาหารซีฟู๊ดที่แตกต่างนั้นลงไป ทั้งหอยเชลล์ หอยนิวซีแลนด์ กุ้งสดตัวใหญ่ๆ และการตกแต่งร้านให้นั่งสบายๆ มาแบบครอบครัว มีกิจกรรมทำด้วยกัน

และจุดขายของร้านเราคือการบริการ ให้ลูกค้าประทับใจที่สุด คือปัจจุบัน 60 โต๊ะ มีพนักงานถึง 23 คน เพื่อดูแลให้ทั่วถึง น้ำซุปหมดเติม น้ำจิ้มหมดเติม โดยไม่คิดถึงต้นทุน แค่เห็นลูกค้ายิ้มก็พอใจแล้ว และความมั่นใจในความสนใหม่ที่แท้จริง เนื่องจากมีซัพพลาย ติดต่อเข้ามาเยอะ จึงมีการเปรียบเทียบให้ได้สิ่งที่ดีกว่าเดิม และขายความสนุกในการทาน เมื่ออาหารเราจานใหญ่ลูกค้าไม่มาคนเดียวแน่นอน จะมากันเป็นกลุ่มก็จะมีการเล่นและทำกิจกรรมทำ สังสรรค์กันอย่างมีความสุข

และด้วยร้านมีการทำประชาสัมพันธ์ทางเพจเฟสบุ๊ค ซึ่งทำให้ลูกค้าจากที่ต่างๆ มาทาน ซึ่งเริ่มต้นมาจากการที่เพจแนะนำอาหารต่างๆ มาขอถ่ายทำ ทำให้มีรีวิวและมีลูกค้ามาติดตามเยอะขึ้นเรื่อยๆ โดนกับผู้บริโภคอย่างหลากหลายพื้นที่

ทำให้จากเริ่มต้นเปิดแค่ 15 โต๊ะเพื่อดูสถานการณ์ และค่อยๆ ขยาย แต่เพราะความติดใจของลูกค้าและด้วยที่นั่งน้อยจึงทำให้มีลูกค้ามารอมากถึง 60 คิว จึงต้องขยายไปเรื่อยๆ จนถึง 60 โต๊ะ

ซึ่ง อาจารย์สุภัค หมื่นนิกร ได้มีการวิเคราะห์ธุรกิจนี้ไว้ว่า “ด้วยความที่คอนเซปเขาแรง และย้ำในหลายจุด ทั้งชื่อ ทั้งสโลแกน ทั้งเมนู ราคา ทั้งหม้อที่ใหญ่ ทุกสิ่งทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความคุ้ม บริการ บรรยายกาศ ทำให้ลูกค้าอั้นไว้ไม่อยู่จึงบอกต่อกัน และจุดประเด็นคนรุ่นใหม่ ด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นวัยรุ่น จึงตอบโจทย์ความต้องการของวัยรุ่นเดียวกันได้อย่างดี และผมว่าสมัยนี้ ระหว่างมีเงินกับมีไอเดีย ขอแค่คุณมีไอเดียเถอะครับ”

ส่วนในเรื่องของอนาคต จะมีการพัฒนาวัตถุดิบ ใส่อะไรที่ลูกค้าคิดไม่ถึงว่าจะใส่ในถาด สถานที่ก็อยากจะทำให้ร่มรื่นขึ้น และเดินหน้าหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ ข้อคิดที่จะฝากคือ “อยากให้ทุกคนใส่ใจบริการ ใส่ใจคุณภาพวัตถุดิบต่างๆ ลูกค้ารู้ เห็นและสัมผัสได้ ว่ากำลังทานของดีหรือไม่” สุดท้ายสำหรับใครที่ต้องการคำปรึกษาสามารถมาพูดคุยถามไถ่ได้ที่ร้าน

[บทความทั้งหมด] | [คลิปรายการทั้งหมด]