ถลกกลโกงข้ามโลก #ฉลาดเกมส์โกง


GDH จัดหนัก ส่งโปรเจ็กต์หนัง “ฉลาดเกมส์โกง” ให้คุณได้ลุ้นระทึกแบบตาติดจอ นั่งไม่ติดเบาะกันเลยทีเดียว  ด้วยคอนเซ็ปต์ “เปลี่ยนกระดาษคำตอบให้เป็นเงินล้าน” จะเป็นยังไง มากระเทาะเลาะเปลือกกันให้ถึงเนื้อถึงหนังกัน

ที่มาของไอเดียหนังเริ่มจาก เก้ง-จิระ มะลิกุล โปรดิวเซอร์หรือหัวเรือใหญ่ของโปรเจ็กต์เรื่องนี้ นำไอเดียการโกงข้อสอบจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วโลก ส่งไม้ต่อให้ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับ (เจ้าของผลงานหนัง “เคาท์เดาวน์” ในยุคที่กำกับให้ค่ายเดิม GTH และเคยผ่านงานกำกับหนังโฆษณามาก่อน)  เพื่อนำไปหาข้อมูล พัฒนาต่อ เวิร์กช้อปทีมนักแสดงแบบเข้มข้น เมื่อบ่มเพาะจนได้ที่ ก็ถึงเวลา “ปล่อยของ” ให้ชมกันทั้งหมด 117 โรงทั่วประเทศ

เริ่มจากขอเล่าคร่าวๆ แบบไม่สปอยด์สาระสำคัญมากนัก หนังเปิดฉากคล้ายคดีสืบสวนสอบสวนแล้วตัดสลับไปมาจากจุดเริ่มต้นที่มีเด็กนักเรียนหญิงระดับหัวกะทิ ซึ่งพ่อผู้หวังดีพามาเรียนต่อที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง เพื่อให้ลูกได้มีโอกาสเรียนต่อเมืองนอก และด้วยไอคิวทางคณิตศาสตร์อยู่ในระดับอัจฉริยะ เธอจึงได้เรียนฟรี

นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้มาพบเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเพื่อนกลุ่มนี้นี่แหละได้กลายเป็นมาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ “โกง(ข้อสอบ)ข้ามโลก” ในเวลาต่อมา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยากให้คุณไปลุ้นกันเอาเองในโรงภาพยนตร์ ขอบอกว่า! ลุ้นยังกะดูหนังแอ็คชั่นเลยทีเดียว

ตัวละครหลักมีเด็กนักเรียนมัธยมปลาย 4 คน ที่เปรียบดั่ง “ผ้าขาว” ต่อมาเมื่อผันตัวมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกลโกงกัน จึงเปรียบได้ดั่ง “ผ้าสีเทา” ได้แก่ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง (รับบท ลิน) ชานน สันตินธรกุล รับบท แบงค์) อิษยา ฮอสุวรรณ รับบท เกรซ) และ ธีรดนย์ ศุภพันธ์ภิญโญ รับบท พัฒน์)

ทุกคนโชว์ฝีมือการแสดงได้ดีมาก โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่ต้องสื่อสารด้วยสายตา ที่ทำเอาคนดูมองลึกเข้าไปในดวงตาแล้วอินไปกับสถานการณ์กดดัน ขัดแย้ง ปมในใจ ความคาดหวัง การเอาชนะ ความพ่ายแพ้ และอีกมากมาย

ฉากแรกที่หนังเปิดตัวเมนอย่าง ลิน โดยวางบล็อกกิ้งให้เธอยืนอยู่หน้ากระจกที่สะท้อนเงามากมายของเธอในนั้น บ่งบอกถึงบุคลิกที่ซับซ้อน “เด็กคนนี้ไม่น่าไว้วางใจ”

หลังจากดูจบพบว่ามีหลายประเด็นที่ “ฉลาดเกมส์โกง” ได้กัดจิกสังคมไทย วงการศึกษา การเลี้ยงดู การคบเพื่อน และความคิดของเด็กรุ่นใหม่ที่พวกเขาอยากบอกผู้ใหญ่ว่า “คบเด็กสร้างตึก” ไม่ใช่สร้างบ้าน แต่เป็นตึกสีเทา

แต่ถึงกระนั้น “ฉลาดเกมส์โกง” ไม่ค่อยฉลาดที่ขายของหรือโฆษณาแฝงแบบตั้งใจจนเกินงาม โดยซีนที่ให้ตัวละครน้องเกรซถือกระป๋องน้ำอัดลมยี่ห้อดัง พร้อมพูดไดอะล็อกแบบตั้งใจขาย เพราะในบทเธอจะไปแคสติ้งโฆษณาน้ำอัดลม แต่หนังก็ไม่เล่าต่อว่าสรุปเธอได้ไปแคสติ้งหรือไม่ อย่างไร หนังตัดประเด็นนี้ไปเลย

สินค้าอีกชิ้นหนึ่งที่หนัง “ขายของ” เกือบจะทุกซีนทุกตอน นั่นคือ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง ที่เผลอๆ นึกว่าเป็นตัวละครอีกตัวหนึ่งไปเลย มือถือยี่ห้อนี้ยังไปโผล่อยู่ในละครหลังข่าวของทีวีช่องน้อยสีอีกหลายเรื่องด้วย ลองสังเกตดูดีๆ จึงเข้าใจได้ว่า มือถือยี่ห้อนี้ใช้แผนการตลาดรุกเข้าไปอยู่ในบทหนัง/ละครเสียแล้ว

เมื่อพูดถึงภาพรวม หลังจากเครื่องบินลำที่มีชื่อว่า “ฉลาดเกมส์โกง” เริ่ม Take off ก็พาผู้โดยสารในโรงภาพยนตร์ไต่ระดับการบินขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความระทึกหายใจหายคอไม่แทบทัน หนังทำได้ดีในแง่ของความบันเทิงเต็มรูปแบบ แม้หนังจะยาว 2 ชั่วโมง 10 นาที แต่ไม่น่าเบื่อเลย สนุกยิ่งกว่าหนังแอ็คชั่นบางเรื่องเสียอีก

ท้ายนี้ขอหยิบไดอะล็อกโดนๆ ของละคนตัวเมนอย่างน้องลินว่า “ถึงแกไม่โกง แต่ชีวิตมันก็โกงแกอยู่ดี” เหมือนการขับรถ ถ้าเราไม่ชนเขา เขาก็ชนเราเองอยู่ดี  และจงอย่าให้สังคมไทยถึงจุดที่ “ใครๆ ก็โกง การโกงถือเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไทย..งั้นเหรอ?” ฝากไว้ให้คิดครับ

เขียนโดย : ชายเล็ก บดินทร์