“ถุงยางอนามัย” ถ้าพูดถึงสิ่ง ๆนี้เมื่อไหร่ หลาย ๆคนคงจะเขินอายกันไม่ใช่น้อยที่จะหยิบมาจ่ายเงินที่เคาร์เตอร์ แต่ถึงอย่างไรสินค้านี้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งกับการใช้ชีวิตและสังคมของเรา วันนี้เราจะไปทำความรู้จักถึงที่มาที่ไปของถุงยางอนามัย One Touch
ที่เรียกได้ว่าเป็นถุงยางรายแรกและรายเดียวที่ผ่านมาตรฐานระดับโลก ซึ่งบริหารงานโดย “คุณอมร ดารารัตนโรจน์”
ย้อนกลับไป ณ จุดเริ่มต้น จริง ๆแล้วทางบริษัทเริ่มจากการเป็นผู้นำทางด้านการพิมพ์ในยุคก่อน ดำเนินธุรกิจมาเรื่อยจนคิดแตกไลน์ธุรกิจในครอบครัว โดยในปี 1993 ได้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงจาก “โรคเอดส์” ส่งผลทำให้ความต้องการในการใช้ถุงยางอนามัยมีมากขึ้น บวกกับทางครอบครัวมีความคิดอยากที่จะทำเกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งในประเทศไทยเรานั้นมีวัตถุดิบยางพารามากพอที่จะนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต จาก 2 เหตุผลที่กล่าวมานี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจผลิตถุงยางอนามัยนั่นเอง
ด้วยความที่ถุงยางอนามัยถูกจัดว่าเป็นสินค้าที่เป็นเครื่องมือแพทย์ ทำให้ต้องขอใบอนุญาตก่อนที่จะจัดจำหน่าย รวมไปถึงต้องได้รับมาตรฐาน ISO,ASTM ,CE Mark ซึ่งใช้เวลารวมทั้งหมด 3-5 ปีจะสามารถจำหน่ายได้ทั่วโลก ซึ่งในตอนแรกทางโรงงานไม่ได้ทำแบรนด์เป็นของตัวเองเป็นแค่การรับผลิตถุงยางให้กับแบรนด์อื่น ๆ กระทั่งในปี 2542 จึงได้เกิดแบรนด์เป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ “One Touch”
กว่าที่ทุกอย่างจะลงตัวมาถึงขนาดนี้ต้องผ่านการวางแผนกันมาเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าในตอนแรกเราจะต้องเสียเวลาในการขอใบอนุญาตแต่ละโซน ซึ่งการขอใบรับรองมาตรฐานต่าง ๆต้องใช้เวลานานกว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์ แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่ได้มาถือว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปในตอนนั้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของธุรกิจที่ในตอนนี้บริษัทไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ผลิตถุงยางอนามัยจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด โดยขณะนี้การเจริญเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 15 % และวางเป้าหมายที่จะครองพื้นที่การจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะบุกตลาด 3 ประเทศใหญ่ ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา จีน และญี่ปุ่น
ทั้งหมดทั้งมวลนอกจากมาตรฐานที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญคือการตามเทรนด์ให้ทัน การคิดอะไรใหม่ ๆ การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆมาใช้ เพื่อให้สินค้าของเราตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด สิ่งเหล่านี้เองจึงเป็นปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนมาจนถึงทุกวันนี้
https://www.youtube.com/watch?time_continue=917&v=HEjdEzIX3sk