ถ้าจะพูดถึงร้านขาย สลัด คงต้องบอกว่าในบ้านเรามีเป็นพันๆร้านแต่ไม่ใช่ทุกร้านที่จะขายดี กอบโกยยอดขายได้หลักล้านต่อเดือน ผ่านตัวละครที่มีชื่อว่าลุงโจนส์ ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและคุณภาพของ ร้านโจนส์สลัด ทำให้ธุรกิจนี้ขยายตัวได้อยากรวดเร็วจนน่าทึ่ง
ร้านโจนส์สลัด (Jones’salad) เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เริ่มมาจากความมุ่งมั่นของคุณ “กล้อง” อริยะ คำภิโล อายุเพียงแค่ 29 ปีเท่านั้น
ด้วยความฝันที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และเป็นคนกล้าลงมือทำ หลังจากเรียนจบ ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้เริ่มสานต่อความฝันของตัวเองอย่างจริงจัง
เริ่มต้นจากเปิดร้านชาไข่มุก เพราะเห็นว่ากำลังบูม เงินทุนก้อนแรกมาจากการยืมคุณแม่ 150,000 บาท ในตอนนั้นธุรกิจชาไข่มุกเติบโตได้อย่างรวดเร็ว สามารถขยายสาขาได้กว่า 10 สาขาโดยเลือกทำเลแถวๆ หน้ามหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น ม.เกษตรศาสตร์ ม.รังสิต ม.กรุงเทพ เป็นต้น สามารถใช้หนี้คืนคุณแม่ในเวลาเพียง 2 เดือน เมื่อเวลาผ่านไปพร้อมกับกระแสชาไข่มุกที่ดาวน์ลง คุณกล้องจึงเริ่มมองหาธุรกิจใหม่ที่มั่นคงกว่า นั่นก็คือเทรนด์สุขภาพ จึงเป็นสิ่งที่จุดประกายไอเดียการทำร้านอาหารเชิงสุขภาพ
อยากเปิดร้านอาหาร แต่กลับทำอาหารไม่เป็นเลย คุณกล้องจึงตัดสินใจบินไปเรียนสูตรน้ำสลัดกับน้าเขยของแฟน ที่เป็นชาวออสเตรเลีย ก็คือ น้าโจนส์นั่นเอง จากนั้นจึงนำมาปรับสูตรเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับคนไทยไม่ดูฝรั่งจนเกินไป เมื่อได้สูตรน้ำสลัดที่อร่อย ร้านโจนส์สลัดจึงเกิดขึ้นที่แรกที่ห้างจามจุรีสแควร์ ด้วยเงินลงทุน 300,000 บาท เคาท์เตอร์เล็ก พื้นที่ขนาด 14 ตารางเมตรเท่านั้น
“วันแรกลูกค้ายังงงๆอยู่ แต่วันที่สองจัดโปรโมชั่นจับฉลากกินฟรี 3 วัน จ้าง MC พริตตี้มา แต่สุดท้ายพริตตี้แทบไม่ได้ทำงาน ต้องมาแพ็คของแทน “
ด้วยรสชาติของน้ำสลัดโฮมเมด และผักจากฟาร์มอินทรีย์ สามารถทานได้ทุกวันเพราะมีให้เลือกมากกว่า 20 แบบ จึงทำให้เกิดการซื้อซ้ำเรื่อยๆ จนโจนส์สลัด เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว จึงขยายสาขาเพิ่มที่ห้างเอสพลานาด รัชดาฯ ขนาดพื้นที่ 65 ตร.ม.ลงทุนไปประมาณ 3 ล้านบาท และล่าสุดที่เซ็นทรัล สาขาเวสต์เกต ขนาดพื้นที่ 124 ตร.ม. ใช้งบลงทุนประมาณ 6 ล้านบาท รวมถึงสาขาที่สีลม รพ. จุฬา และย่านสาธร ซึ่งในปีนี้คุณกล้องตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายให้ครบ 10 สาขา
แม้ทุกอย่างจะออกมาสวยหรู แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆเลย คุณกล้องเล่าว่า การทำธุรกิจของโจนส์สลัดช่วงแรกของการเปิดร้านก็มีปัญหาค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะปัญหาด้านการปฏิบัติการภายใน ซึ่งร้านโจนส์สลัดมีพนักงานให้บริการเฉลี่ย 10 คนต่อสาขา คุณกล้องเลือกใช้วิธีการจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานให้แก่พนักงาน สามารถแก้ปัญหาไปได้ด้วยดี ประกอบกับปัญหาเรื่องต้นทุนสูงมาร์จิ้นต่ำเป็นปัญหาที่เจอรองลงมา จึงต้องหันมาปรับกลยุทธ์ขายเครื่องดื่มน้ำผลไม้คั้นสด หรือซุปเห็ดต่างๆ ควบคู่กันไป เพื่อช่วยผลักดันยอดขายและกำไรมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโจนส์สลัดสามารถลดต้นทุนไปได้มาก โดยเฉพาะในเรื่องของการสั่งซื้อผักสด ซึ่งเขาบอกกว่าการสั่งซื้อจากฟาร์มขนาดใหญ่ต่อวันจำนวนมาก ทำให้เพิ่มอำนาจต่อรองกับฟาร์มได้ นอกจากนี้ ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรมาผลิตน้ำสลัดเพื่อลดการใช้แรงงานคนด้วย
จากการลงมือทำ และทำอย่างจริงจัง ทำให้โจนส์สลัดเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างยอดขายและกำไรเติบโต 100% ทุกปีด้วยเงินลงทุนก้อนแรกที่ถูกบริหารจัดการอย่างเหมาะสม
“ไม่มีใครรู้หรอกว่าธุรกิจจะเวิร์กหรือไม่เวิร์ก มันจะดีหรือไม่ดีก็ต่อเมื่อเราลองทำแล้วเท่านั้น และที่สำคัญกว่านั้นเราต้องเชื่อมั่นว่ามันจะสำเร็จจริงๆ การลงทุน มันอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เราอาจจะเห็นอะไรหลายอย่างที่นำมาต่อยอดจากอันเดิม กลายเป็นธุรกิจใหม่ที่ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมาได้เช่นกัน” คุณกล้องกล่าวทิ้งท้าย
อ่าน Case Stuby อื่นๆ >>>[คลิก]
