ร้านค้าปลีก เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เห็นได้ทั่วไปและมีมาอย่างยาวนานมากแล้ว ซึ่งถือได้ว่าร้านค้าปลีกเป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายของผู้บริโภค ที่ไม่จำเป็นต้องไปห้างสรรพสินค้าไกล เพื่อซื้อข้าวของเพียงเล็กน้อย นั่นจึงทำให้ร้านค้าปลีกเกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่ปัจจุบันมีการแข็งขันที่สูงขึ้นไม่ว่าจะเป็น ร้านค้าปลีกในพื้นที่ใกล้เคียง หรือ ร้านสะดวกซื้อ ฉะนั้นผู้ประกอบการเองควรมีการพัฒนาธุรกิจมีกลยุทธที่จะดึงดูดลูกค้าเพื่อให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น กับ 5 เทคนิคปรับปรุงร้านค้าปลีก ให้ยอดขายทะลุเป้า
1.การตกแต่งร้าน
การตกแต่งร้านไม่ว่าใครๆ มักจะชอบร้านที่มีเอกลักษณ์มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง มีบรรยากาศทีดี ดูมีความแปลกใหม่ และ มีชีวิตชีวา แต่ที่สำคัญสินค้าต้องจัดสรรให้เป็นระเบียบหาง่าย เห็นง่าย หยิบง่าย บรรยากาศในร้านควรจะต้องดูโปร่งโล่ง มีแสงสว่างมากเพียงพอ ไม่มีมุมอับ มีอากาศถ่ายเท สะดวก ไม่ดูแออัดหรือทึบจนเกินไป อีกทัhงยังควรทําความสะอาดร้านอยู่เสมอ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ป้ายซื่อร้านควรมีการตั้งชื่อร้านให้เป็นที่จดจำ ติดตั้งเอาไว้ในบริเวณที่เห็นได้ง่าย
2.การจัดวางสินค้า
ควรจําแนกสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ของประเภทเดียวกันควรจัดวางให้อยู่ใกล้กัน ส่วนอาหารก็ควรแยกกับของใช้ ติดป้ายราคารายละเอียดของแบรนด์นั้นๆ และวันหมดอายุให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภค เลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย และ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สินค้าควรจัดเรียงลําดับตามวันหมดอายุ หากหมดอายุก่อนก็ให้นํามาไว้ด้านหน้าสุดไล่ตามลําดับลงไปเรื่อยๆ เพื่อป้องกันการค้างสต็อกของสินค้า ทีนอกจากนี้สินค้าที่นํามาขายควรตรงความต้องการของผู้บริโภคควรจัดวางสินค้าที่ขายดี และ ต้องการส่งเสริมการขายไว้หน้าร้านหรือในบริเวณที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ในทันที
3.การตลาดที่ดึงดูดใจลูกค้า
ผู้คนส่วน ใหญ่มักจะชอบโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ดังนั้นจึงควรคิดหากลยุทธ์วิธีในการส่งเสริมการขาย เพื่อเชิญชวนลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการในร้านของเรามากขึ้น อย่างเช่น โปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 หรือลดราคาสินค้า 50% นอกจากนี้ควรติด ป้ายโปรโมชั่นที่มีความโดดเด่น และมีสีสันสะดุดตาไว้หน้าร้านจัดวางสินค้าที่ต้องการส่งเสริมการขายไว้ในจุดที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด กลยุทธ์อีกอย่างหนึ่งที่อาจช่วยทําให้ลูกค้าอยากเข้ามาซื้อของในร้านมากขึ้น คือ กลยุทธ์ใน ด้านราคา อาจตั้งราคาสินค้าบางชนิดให้ถูกกว่าร้านค้าอื่นเล็กน้อย เพื่อทําให้ลูกค้าเล็งเห็นถึงความคุ้มค่า
4.การบริการ
แม่ค้าพ่อค้าควรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ๋มใสอยู่เสมอ ดังนั้น ควรต้อนรับลูกค้าด้วยความเป็นมิตรอบอุ่น และ เป็นกันเอง ทักทาย อย่างร่าเริงแจ่มใส พูดจาไพเราะ เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้กลายเป็นลูกค้าประจําในอนาคต นอกจากนี้ควรสร้างความสัมพันธุที่ดีต่อลูกค้าเดิมด้วย เช่น หากมีลูกค้าเดิมที่เข้ามาใช้บริการเป็นประจําควรจดจํารายละเอียดของลูกค้าคนนั้นๆ ทั้งชื่อของลูกค้าและสินค้าที่ลูกค้ามาซื้อเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนเป็นคนสําคัญ
5.การพัฒนาศักยภาพ
เจ้าของธุรกิจจะต้องหมั่นเรียนรู้ศึกษาค้นคว้าและพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเสมอ เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เจ้าของร้านต้องหมั่นวิเคราะห์ถึงความต้องการของตลาดและผู้บริโภคเพื่อให้ทราบว่าสินค้าชนิดใดที่กําลังเป็นที่ต้องการหรือกลุ่มเป้าหมายกําลังมองหาสินค้าประเภทใด และแนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าในอนาคตว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดวิเคราะห์เกี่ยวกับกลยุทธ์ในการเชิญชวนลูกค้า จุดเด่น และ จุดด้อย ของคู่แข่ง เพื่อนํามาปรับใช้ในการพัฒนาร้านค้าต่อไป บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง คลิก
