การขอสินเชื่อธุรกิจจาก ธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินต่างๆ สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องมี คือ แผนธุรกิจที่จะเป็นเครื่องชี้วัดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ แผนธุรกิจ เปรียบเสมือน Profile ธุรกิจ ที่บอกถึงทิศทาง กระบวนการ และความเป็นไปได้ ฉะนั้นผู้ประกอบการจะต้องเขียนแผนธุรกิจให้ดีที่สุดและอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ และสอดคล้องกับ 5 สิ่งที่ ธนาคารอยากเห็นในแผนธุรกิจ คือ
1.สินค้าที่ขายหรือบริการที่จะทำ ถือว่าเป็นหัวข้อหลักที่จำเป็นต้องระบุลงในแผนธุรกิจ ใน 1 ธุรกิจ อาจมีสินค้าหลากหลายหรือมีบริการหลายประเภท ผู้ประกอบการต้องแยกให้ออกว่าสินค้าใดเป็นสินค้าหลัก บริการใดเป็นบริการหลัก จัดประเภทของสินค้าและบริการให้ชัดเจน โดยธนาคารจะพิจารณาเปรียบเทียบกับธุรกิจประเภทเดียวกัน และดูแนวทางการสร้างผลกําไรว่ามากน้อยเพียงใด ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมทั้งดูความสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในขณะนั้นด้วย
2.กลุ่มเป้าหมาย เมื่อรู้อยู่แล้วว่าธุรกิจที่จะทำคืออะไร สิ่งต่อมาที่ผู้ประกอบการจะต้องรู้ให้ได้ คือ สินค้าหรือบริการนั้นๆ จะขายให้กับใคร เหมาะกับคนกลุ่มไหน เขียนให้ชัดเจนที่สุดหรือเจาะจง เพศ อายุ พื้นที่ ลักษณะความต้องการ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นไปได้ของธุรกิจนั้นๆ ไม่ควรระบุกลุ่มเป้าหมายกว้างเกินไป เช่น ทุกเพศ ทุกวัย เพราะธนาคารจะมองว่ารู้ไม่จริงในธุรกิจนั้นๆ มีใครเป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ตกม้าตายในส่วนนี้
3.จุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจ ผู้ประกอบการต้องรู้จักวิเคราะห์ตนเอง วิเคราะห์ธุรกิจ แล้วบอกให้ได้ว่าธุรกิจที่ทำมีจุดแข็งอะไร โดดเด่นอย่างไร มีอะไรที่เหนือกว่าหรือแตกต่างจากคู่แข่ง และวิเคราะห์จุดอ่อนว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงแนวทางการแก้ไขจุดอ่อนนั้นๆ มีแผนบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจมันจริงๆ เพราะธนาคารจะพิจารณาสถานการณ์ ดีที่สุด ถึง แย่ที่สุด และดูแนวทางการแก้ไข การรับมือกับความเสี่ยงว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
4.กระบวนการทำธุรกิจ เมื่อมีเป้าหมายเป็นที่ตั้ง ผู้ประกอบการจะต้องบอกถึงวิธีการที่จะไปให้ถึงเป้าหมายนั้นให้ได้ โดยอธิบายถึงขั้นตอนการทำธุรกิจว่ามีกระบวนการอย่างไรบ้าง ระบุให้ละเอียดทุกขั้นตอน นึกให้ออกว่า สินค้าหรือบริการ ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนใดบ้าง ก่อนที่จะออกมาเป็นสินค้าหรือบริการนั้นๆ รวมไปถึงการบริหารจัดการภายใน อาทิ สายงานแผนกต่างๆ จำนวนบุคลากร เงินเดือนของพนักงาน เป็นต้น เหล่านี้ควรระบุในแผนธุรกิจให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย โดยธนาคารจะวิเคราะห์ระบบความคิด และระบบการทำงาน การบริหารจัดการ ของผู้ประกอบการ หรือธุรกิจว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด จะทำให้ประสบความสำเร็จหรือไม่
5.กลยุทธ์ที่ใช้ ก่อนอื่นผู้ประกอบการต้องแยกให้ออกก่อนว่า กลยุทธ์ ไม่ใช่อันเดียวกับ วิธีการหรือกระบวนการที่จะนำไปสู่เป้าหมาย แต่จะเป็นวิธีการที่ทำให้ไปถึงเป้าหมาย เร็วขึ้น ง่ายขึ้น รวมไปถึงการเอาชนะคู่แข่งอีกด้วย ซึ่งกลยุทธ์จะมีความซับซ้อนและสามารถทำได้หลากหลาย อาทิ กลยุทธ์ด้านการตลาด กลยุทธ์ด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์
ผู้ประกอบการจะต้องเขียนออกมาให้ได้ว่าจะทำมันอย่างไร ผลของกลยุทธ์นั้นคืออะไร กลยุทธ์นั้นสามารถทำให้ถึงเป้าหมายได้ เร็วขึ้น ง่ายขึ้น อย่างไร เป็นต้น ธนาคาร จะวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่ากลยุทธ์ที่ใช้สอดรับกับกระบวนการของธุรกิจนั้นหรือไม่ เหมาะสม หรือจำเป็นอย่างไร ฉะนั้นกลยุทธ์ไม่ควรเป็นสิ่งที่เพ้อฝัน แต่ต้องเป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้จริงและเห็นผลที่สุด เหล่านี้เป็นสิ่งที่ธนาคารต้องการเห็นในแผนธุรกิจ ซึ่งแผนธุรกิจจะสะท้อนให้ธนาคาร รับรู้อุปนิสัยของผู้กู้ว่าเป็นอย่างไร มีความสามารถในการคืนเงินให้กับธนาคารแค่ไหน แล้วธนาคารควรจะอนุมัติเต็มวงเงินหรือไม่
ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจในหลักการที่ถูกต้อง ตั้งแต่ธุรกิจที่ทำ และอธิบายออกมาในรูปแบบของแผนธุรกิจที่เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน บทความอื่น Business Tips