Hard Skills เป็นทักษะที่ทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในตำแหน่งงานหรืออาชีพนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เรารู้จักมันในฐานะทักษะทางตรง แต่ยังมีทักษะอีกรูปแบบหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างและเชื่อมตัวเราเข้ากับเพื่อนรวมงานและองค์กร ใช่แล้วมันคือทักษะทางอ้อม หรือ Soft Skills นั่นเอง และนี่คือทักษะทางอ้อมที่จะทำให้คุณโดดเด่นกว่าใครๆ มาแนะนำ
1.การบริหารเวลา (Time Management)
ทักษะการบริหารเวลาอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะคนทำงานในยุคนี้ที่ต้องเร่งรีบเพื่อแข่งกับเวลา และต้องทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน ดังนั้นทักษะในการบริหารเวลาจึงเป็นทักษะที่สำคัญต่อคนทำงาน ซึ่งการทำงานในแต่ละวันควรมีการวางแผน ควบคุม กำหนดระยะเวลา และจัดลำดับความสำคัญของงานให้ชัดเจน เพื่อทำให้งานสำเร็จตามเป้าหมายในเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยลดความเครียดที่เกิดจากงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและมีเวลาสำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวอื่นๆ อีกด้วย
2.การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning)
ในปัจจุบันการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีทำให้เกิดนวัตกรรม เกิดอาชีพใหม่ตลอดจนวิธีการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การทำงานในยุคนี้ใช้ความรู้ในสาขาวิชาเดียวคงไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้นคนทำงานจึงต้องมีการเตรียมพร้อมในการเรียนรู้อยู่เสมอ และสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้ของคนทำงานในยุคนี้คือ วิธีการอ่านจับใจความสำคัญ การสรุปประเด็น และการเชื่อมโยงข้อมูลความรู้เข้าด้วยกัน ตลอดจนสามารถวิเคราะห์ความเหมือนและความแตกต่างจากสิ่งที่เรียนรู้มาได้ ซึ่งทักษะนี้จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้
3.ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)
การทำงานในองค์กรหรือแม้แต่คนที่ทำงานอิสระเองนั้น ล้วนต้องมีการติดต่อประสานงานกับผู้อื่นทั้งสิ้น ดังนั้น Emotional Intelligence จึงเป็นทักษะสำคัญและส่งผลอย่างมากต่อการทำงาน เพราะคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ คือคนที่มีความสามารถในการสังเกต ทำความเข้าใจ จัดการ และแสดงออกทางอารมณ์ของตัวเองได้อย่างดี รวมถึงสังเกตและทำความเข้าใจอารมณ์ของคนอื่นด้วย ทักษะนี้จะช่วยให้คนทำงานสามารถควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้อย่างเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ รวมถึงบริหารจัดการกับความเครียด ซึ่งส่งผลให้การสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน และยังทำให้ทั้งสุขภาพกายและใจดีตามไปด้วย
4.ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability)
อย่างที่ทราบกันดีว่าโลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสาร เครื่องมือและวิธีการทำงาน เป็นต้น ความสามารถในการปรับตัวและมีความยืดหยุ่นทางความคิดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยคนที่มีทักษะในการปรับตัวและเปลี่ยนมุมมองความคิดจะสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และสามารถพลิกแพลงหาวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
5.การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration)
การทำงานทุกวันนี้เราต้องทำงานร่วมกับคนที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของสายงาน ช่วงวัย หรือรูปแบบการทำงาน องค์กรจึงต้องการคนทำงานที่มีทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่น เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกันภายในทีมตัวเองและการทำงานร่วมกับคนนอกทีม รวมไปถึงทักษะในการบริหารคนที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในคนทำงานระดับหัวหน้าอีกต่อไป แต่จำเป็นสำหรับคนทำงานในทุกระดับ
6.การสื่อสาร (Communication)
ไม่ว่าจะทำงานในธุรกิจไหน หรือองค์กรใด แน่นอนว่าในที่ทำงานต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองาน การเสนอความคิดเห็นทั้งกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง ซึ่งการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้เกิดความร่วมมือและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทำงาน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนั้นยังรวมไปถึงทักษะการประสานงานและการเจรจาต่อรองด้วย ว่าจะใช้การเจรจาอย่างไรเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมีทางออกแบบ Win-Win Situation หรือสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
7.การแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน (Complex Problem Solving)
เนื่องจากทุกวันนี้องค์กรถูกผลกระทบจากเทคโนโลยี ตลอดจนความหลากหลายของธุรกิจ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้อย่างรอบด้าน ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างไปจากอดีตและมีความซับซ้อนมากขึ้น องค์กรจึงต้องอาศัยคนที่สามารถมองเห็นและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านั้น ทำให้ทักษะการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนถูกพูดถึงกันอยู่ไม่น้อย โดยทักษะนี้ต้องอาศัยหลายทักษะย่อยใช้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็น การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ระบุปัญหาและความต้องการของลูกค้า อาศัยความเข้าใจในการเชื่อมโยง และใช้ความสามารถในการอ่านบริบทของธุรกิจ ตลอดจนต้องสร้างสรรค์วิธีแก้ไขปัญหาในรูปแบบต่างๆ ตามแต่ละสถานการณ์แล้วตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม
8.การคิดเชิงวิเคราะห์และเลือกตัดสินใจ (Critical Thinking and Decision-making)
ยุคแห่งข้อมูลมหาศาลที่รอให้เข้าไปขุดค้นออกมา หรือ Big Data กำลังเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้น แถมข้อมูลพวกนี้จะเยอะขึ้นอีกในอนาคตเมื่อความสามารถของหุ่นยนต์พัฒนาไปไกลกว่าปัจจุบัน ซึ่งทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์จะช่วยให้เราสามารถย่อยข้อมูลจำนวนมากได้ โดยต้องรู้จักตั้งคำถามเชิงวิเคราะห์ ตีความ ประเมินทางเลือกและตัดสินใจ เพื่อให้องค์กรได้ประโยชน์สูงสุด และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หรือไม่มีความผิดพลาดเลย
9.ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
คือความพยายามสร้างบางอย่างที่นอกเหนือไปจากสิ่งที่คนทั่วไปมองเห็น ถือว่าเป็นทักษะที่มีคุณค่ามากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะไม่มีหลักสูตรตายตัวในการเรียน การสอน ทักษะนี้ยังเป็นการรวมเอาหลายทักษะไว้ด้วยกัน เช่น ช่างสังเกต อยากรู้อยากเห็น และการเปิดใจกว้าง รวมถึงการเสพข้อมูลหลากหลาย ความคิดสร้างสรรค์ในที่นี้ไม่ได้ใช้ในงานศิลปะเท่านั้น แต่เป็นการนำความคิดสร้างสรรค์มาใช้กับงาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ซึ่งองค์กรอยากได้คนที่มีทักษะนี้เข้าไปมีส่วนร่วมในการหยิบเอาเทคโนโลยี วิธีการทำงาน หรือแนวคิดมาใช้สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ให้องค์กรด้วย
จะเห็นได้ว่าในโลกของการทำงาน “ซอฟต์ สกิล” (Soft Skills) มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า “ฮาร์ด สกิล” (Hard Skills) ดังนั้นถ้าคนทำงานเรียนรู้และนำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง ก็จะส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
อ้างอิง: จ๊อบไทย