6 ข้อที่เป็นเครื่องยืนยัน ว่า “คนเก็บตัว” ก็ทำธุรกิจให้ปังได้


หลายคนคงมีความคิดแบบเดิมๆ ที่ว่า ในโลกธุรกิจ ดูเหมือนว่าเป็นโลกที่เหมาะกับผู้ที่เป็นคนเปิดเผยเสียมากกว่า นั่นเพราะดูมีความเป็น “เจ้าของธุรกิจมากกว่า” ด้วยบุคลิกของการเป็นผู้นำทีม การเจรจาและเชื่อมสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจ

นอกจากนั้น เจ้าของธุรกิจยังต้องสร้างเครือข่ายกับคนใหม่และพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า ดังนั้น สำหรับคนที่เป็นคนเก็บตัวแล้ว ความรับผิดชอบเหล่านี้ อาจดูเหมือนน่ากลัว เกินความสามารถที่จะจัดการ คนเก็บตัวก็ต้องเป็นคนที่เงียบๆ ชอบสันโดษ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ

และหากคุณเป็นคนเก็บตัว เว็บไซต์ Thinkbusinessplan มีรายงานที่ยืนยันได้ว่า คนแบบ “คุณ” ก็มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนอยู่ในตัวคุณเอง และคุณอาจจะต้องท้าทายตัวเองเป็นพิเศษที่จะสู้เพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณ มีข้อได้เปรียบเป็นพิเศษอยู่ในตัว ถ้ารู้จักวิธีดึงมันมาใช้ ดังต่อไปนี้

1. เลือกประเภทของธุรกิจของคุณอย่างชาญฉลาด

ขั้นตอนแรก คุณต้องเลือกประเภทธุรกิจของคุณอย่างระมัดระวัง ก่อนที่คุณจะลงมือเขียนแผนธุรกิจ คิดวิเคราะห์แนวคิดของคุณให้ชัดเจน สิ่งที่จะบอกว่าธุรกิจนั้นจะเชื่อมโยงกับบุคลิกภาพ จิตและและอารมณ์ความรู้สึกของคุณอย่างไร ต้องมีสิ่งต่อไปนี้สอดคล้องกับจุดแข็งของคุณ

คนเก็บตัวโดยส่วนมาก จะฝังตัวอยู่กับงานเฉพาะด้าน เฉพาะตัว ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะชอบเขียนโปรแกรม สร้างแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานหรือเป็นงานอดิเรก หรือคุณอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญงานไม้ นั่นคือ คุณต้องสร้างธุรกิจที่สอดคล้องกับจุดเด่นเฉพาะตัวของคุณ ต้องมีบางสิ่งที่คุณมีความสามารถแต่คนที่ชอบเปิดตัวทำไม่ได้ จงหาจุด ๆ นั้นและใช้ประโยชน์มันลดปริมาณการปฏิสัมพันธ์

เมื่อคุณกำลังสร้างแผนธุรกิจของคุณ จงเลือกโมเดลที่ไม่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการให้คำปรึกษาตัวต่อตัว หรืองานฝึกอบรม ถ้าคุณไม่ชอบการเข้าสังคม คุณอาจจะต้องใช้เครื่องมือที่เป็นตัวช่วยในการสร้างธุรกิจมากกว่าจะใช้ผู้คน เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ก่อน ไม่ว่าคุณจะคิดทำธุรกิจอะไร จ้างคนเท่าที่จำเป็น จากจุดนั้นคุณสามารถค่อยๆ สร้างบทบาทของตัวเอง หลีกเลี่ยงการกดดันตัวเองจากการเผชิญหน้ากับการทำความรู้จักผู้คนและสถานการณ์ใหม่

2. หาผู้ร่วมงานที่เติมเต็มให้กับคุณ

ถ้าคุณเป็นคนเก็บตัวถึงขั้นที่เรียกว่า มาก จะดีกว่าถ้าคุณหาผู้ร่วมธุรกิจและลูกจ้างที่สามารถเติมเต็มด้านบุคลิกภาพและทักษะให้กับคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเกลียดการขายให้คนแปลกหน้าและไม่ชอบคุยกับคนไปทั่ว จงหาทีมงานที่เป็นคนเปิดเผยและพุ่งเข้าชน ชอบการพูดคุยสนทนา

การเป็นคนเก็บตัวนั้นประกอบไปด้วยจุดแข็งและข้ออ่อน และการเป็นคนเปิดเผยก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคุณต้องผสมผสานทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกันถ้าคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณไปได้ดีที่สุด

3. สร้างสิ่งแวดล้อมที่คุณต้องการ

นี่คือบริษัทของคุณ แบรนด์ของคุณ คุณต้องนิยามและสร้างมันในทางใดก็ตามที่คุณเลือก เห็นได้ชัดว่า คุณต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดในทางปฏิบัติและอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ แต่จงปรับใช้นโยบายและคุณค่าที่สอดคล้องกับธรรมชาติการเป็นคนเก็บตัวของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณชอบการสื่อสารโดยการเขียนมากกว่าการพูด ก็สร้างธุรกิจที่ทำงานทางไกล ให้พนักงานทุกคนทำงานที่บ้าน ถ้าคุณไม่ชอบการขายแบบตัวต่อตัว ก็อาจจะลองปรับใช้กลยุทธ์การตลาด inbound marketing คือการทำการตลาดเพื่อให้ผู้รับสารอยากเข้ามาหาเราเอง โดยมุ่งมั่นทำช่องทางของตัวเองให้มีคุณภาพน่าดึงดูดใจ เพื่อไปสู่เป้าหมายการขาย

4. สร้างเครือข่ายและปฏิสัมพันธ์โดยช่องทางออนไลน์

ถ้าคุณไม่ชอบการเชื่อมสัมพันธ์กับผู้คนในโลกจริง คุณอาจจะพบก้าวย่างของคุณในเส้นทางออนไลน์ แทนที่จะออกไปข้างนอกเพื่อร่วมอีเว้นต์สร้างเครือข่าย คุณสามารถสร้างเครือข่ายอันเข็มแข็งของคุณผ่านสื่อโซเชียล คุณสามารถใช้อีเมลและการส่งข้อความในการสร้างปฏิสัมพันธ์และสร้างการนัดหมายได้ในอนาคตเมื่อคุณมีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม มีประโยชน์หลายอย่างในการพูดคุยกับผู้คนตัวต่อตัว เพราะฉะนั้นอย่ายึดติดการปฏิสัมพันธ์ออนไลน์มากจนเกินไป

5. ฝึกการเข้าสังคม

ถึงแม้จะเป็นไปได้ที่เราเป็นผู้ประกอบการฉายเดี่ยว แต่ในไม่ช้า ภายหลังคุณก็ต้องเข้าสังคมกับผู้คน ถ้าไม่ใช่หุ้นส่วน ก็ลูกค้า พนักงานหรือที่ปรึกษา ถ้าคุณเข้าสังคมได้ไม่ดีนัก หรือชอบที่จะหลีกเลี่ยง คุณจำเป็นต้องฝึกฝนเพื่อให้รู้จักการเข้าสังคม การสนทนา และการสร้างปฏิสัมพันธ์เป็นทักษะ เหมือนกับทักษะอื่นๆ และคุณสามารถฝึกฝนขัดเกลาตัวเองได้ โดยใช้เวลาในการฝึกความสามารถนี้ขึ้นมา เริ่มต้นโดยการเข้าร่วมอีเว้นท์เครือข่ายต่าง ๆ และพูดคุยกับผู้มาร่วมงานคนอื่นๆ พัฒนาวิธีการใหม่ในการนำการสนทนาไปในทางที่คุณต้องการให้พวกเขามุ่งไป นี่อาจดูน่ากลัวในตอนแรก แต่คุณจะทำได้ในที่สุด

6. เรียนรู้สถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย

มีสิ่งสำคัญหลายอย่างที่ต้องจดจำ สิ่งแรก การเป็นคนเก็บตัวของคุณไม่ใช่สิ่งแย่ มันคือจุดแข็ง ถ้าคุณรู้จักใช้มัน สอง ไม่ว่าคุณต้องเผชิญสถานการณ์อะไรก็ตาม ที่ทำให้คุณไม่คุ้นเคย รู้สึกไม่ปลอดภัย ถ้าคุณต้องการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ คุณต้องรู้สึกปลอดภัยกับสิ่งที่คุณเคยรู้สึกไม่ปลอดภัยให้ได้ คุณต้องก้าวข้ามผ่านความรู้สึกนี้ให้ได้เพื่อท้าทายตัวเองสู่การเติบโต เรียนรู้สิ่งใหม่และพร้อมรับความสำเร็จที่คุณใฝ่ฝันถึง

source: Thinkbusinessplan.com