วิธีทำให้ SEO ติดไฟเขียวผ่านตลอด โพสต์เมื่อไหร่ได้หน้าแรก Google แน่นอน


การทำ SEO คืออะไรคงไม่ต้องย้อนกลับไปอธิบาย เพราะหลายคนเข้าใจกันดีอยู่แล้วว่ามันเป็นเทคนิคในการใส่คีย์เวิร์ดให้ Google มองหาเว็บไซต์คุณเจอ และนำเว็บไซต์มาเสนอให้ผู้คนได้พบเห็นมากขึ้น แน่นอนว่ายิ่งคีย์เวิร์ดนั้นมีคนสนใจเยอะ คู่แข่งก็เยอะตาม คุณจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่างปลั๊กอินในการโพสต์บทความและสิ่งต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ และถูกหลักแบบที่ Google ชื่นชอบ

การทำ SEO ไม่จำเป็นต้องเน้นคีย์เวิร์ดเสมอไป

การทำ SEO นั้นถ้าคุณเน้นที่คีย์เวิร์ดก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะมันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณติดหน้าแรกได้ง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่มีความรู้ด้านนี้เลย คุณมีเพียงประสบการณ์และมีความรู้อย่างถ่องแท้ในเรื่องที่ต้องการจะสื่อจริงๆ และคุณสามารถเขียนบทความให้น่าสนใจ มีประโยชน์ ตอบโจทย์คนอ่านได้ บทความของคุณก็สามารถติดหน้าแรกได้เช่นกัน นั่นเพราะบทความคุณมีคุณภาพมากเพียงพอ ทำให้คนคลิกและแชร์ รวมถึงส่งต่อกันไป เปิดอ่านกันมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยในด้าน SEO มากเท่านั้น

ติด SEO ง่ายๆ ด้วยการใช้ Plug-in

หากแต่ถ้าคุณไม่มีพรสวรรค์ในการชักจูงคนให้สนใจในบทความ หรือไม่มีฐานแฟนคลับระดับโตที่พร้อมจะกดแชร์ คุณก็สามารถใช้วิธีง่ายๆ แบบที่คนทั่วๆ ไปใช้กันได้ นั่นคือการใช้งานปลั๊กอินที่มีชื่อว่า Yoast SEO ซึ่งเป็นตัวช่วยในการตรวจเช็ก SEO ของคุณว่าตรงกับที่ Google ต้องการมากน้อยแค่ไหนแล้วหรือยัง

ซึ่งปลั๊กอินตัวนี้ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยส่งให้เว็บคุณติดหน้าแรกแบบโดยตรง แต่มันจะช่วยเช็กลิสต์โครงสร้างเนื้อหาเว็บไซต์ได้ว่าตอนนี้สำเร็จและถูกต้องเหมาะสมไปแล้วกี่ % และ Google ชอบเว็บไซต์คุณมากน้อยแค่ไหน เป็นเหมือนคู่มือในการพาตัวเองไปสู่จุดที่ Google ชื่นชอบนั่นเอง

12 โครงสร้างหลักในการทำ SEO ให้ผ่านฉลุย

ปลั๊กอิน Yoast SEO นี้จะมีสัญญาณไฟขึ้นมา เป็นสีแดงและสีเขียว สีแดงคือ บทความคุณยังไม่ถูกหลัก และสีเขียวคือ บทความคุณเหมาะสมสำหรับ Google แล้ว ซึ่งโครงสร้างหลักๆ ที่จะทำให้ติดไฟเขียวผ่านหมดทุกสิ่งที่ Google ต้องการคือ

1. มีคีย์เวิร์ดอย่างน้อยๆ 1 คำ
2. ชื่อบทความต้องไม่ยาวเกินไป หรือสั้นเกินไป
3. คีย์เวิร์ดต้องอยู่คำแรกของชื่อเรื่อง
4. มีคีย์เวิร์ดอยู่ในย่อหน้าแรกเสมอ
5. คีย์เวิร์ดควรปรากฏในบทความไม่เกิน 2.5% ของจำนวนคำทั้งหมด ไม่เช่นนั้น Google จะมองว่าสแปม
6. ต้องมีรูปภาพประกอบบทความ และชื่อรูปก็ควรจะมีคีย์เวิร์ดด้วย
7. บทความต้องมีหัวข้อใหญ่ และหัวข้อใหญ่ควรมีคีย์เวิร์ดอยู่ด้วย
8. ใน Meta Description หรือคำอธิบายแบบย่อ ควรมีคีย์เวิร์ดด้วย
9. ควรมีลิงก์ที่เชื่อมไปเว็บอื่น หรือหน้าอื่นของเว็บเรา อยู่ในบทความด้วย
10. บทความต้องยาวเกิน 300 คำขึ้นไป
11. บทความต้องอ่านง่าย ไม่ยาวมากไป ไม่ติดกันเป็นพรืด มีการเว้นวรรคทั้งบรรทัด และระหว่างคำที่สวยงาม
12. มีการนำรูป นำวิดีโอ นำไฟล์เสียงต่างๆ มาแสดงเพื่อให้เกิดความหลากหลาย

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณสามารถเช็กลิสต์ทั้งหมดนี้ได้อย่างครบถ้วน นั่นหมายถึงการทำ SEO ของคุณประสบความสำเร็จไปมากกว่า 60% แล้วล่ะครับ ซึ่งที่เหลือก็คือ การรอเวลาให้ Google ทำงานด้วยตัวมันเอง ซึ่งจะนานแค่ไหนกว่าเว็บไซต์ของคุณจะขยับอันดับขึ้นมาจากเดิม ก็อยู่ที่ว่าเนื้อหาที่คุณเขียนมันน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน และมีประโยชน์มากเพียงใด ถ้าเทียบกับคู่แข่งคนอื่นๆ ที่ทำเรื่องในคีย์เวิร์ดเดียวกัน

เพราะฉะนั้นเสียเวลาทำทั้งทีคุณต้องลงมือให้เต็มที่และมีประโยชน์มากที่สุด เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาฟรี และได้อันดับหน้าเว็บดีๆ แบบที่คุณต้องการ