ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
สถานการณ์การว่างงาน จากผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ทำการสำรวจในเดือนกรกฎาคม 2562 พบว่า มีกำลังแรงงานประมาณ 38.09 ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ 37.62 ล้านคน ผู้ว่างงานจำนวน 4.4 แสนคน และผู้รอฤดูกาล 3.0 หมื่นคน ด้วยอัตราการว่างงานที่มากบวกกับค่าครองชีพที่สูงในปัจจุบัน จึงส่งผลให้การหางานเป็นเรื่องยาก มีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะหากจะหางานที่ตรงกับความถนัดและรายได้ที่พึงพอใจ
แต่ไม่ว่าการสัมภาษณ์งาน จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกดดันเพราะทุกครั้งเราใส่ความคาดหวังที่จะได้งานลงไปไม่น้อย และความกดดันนี้เองที่เป็นส่วนทำให้เราทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะหากเราเป็นคนที่พูดน้อย เข้ากับคนไม่ค่อยเก่ง และค่อนข้างรักสันโดษแบบคน Introvert อยู่เป็นทุนเดิมด้วยแล้ว การสัมภาษณ์งานมักเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเตรียมตัวให้มากกว่าคนทั่วไปอยู่เสมอ
…อย่ากังวลใจไป เรามี 4 เทคนิคการสัมภาษณ์งานสำหรับคน Introvert ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้เป็นอย่างดีจาก Jobthai มาฝาก ดังต่อไปนี้
วางแผนเตรียมตัวสัมภาษณ์ให้ดี
แม้ว่าเรซูเม่ของเราจะดูดีแล้ว จดหมายสมัครงานก็ถือได้ว่าโดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่น แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่การสัมภาษณ์งานที่คน Introvert อาจรู้สึกอึดอัดและไม่เป็นตัวเอง การวางแผนจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในของการสร้างความมั่นใจ ลองอ่านทบทวนคุณสมบัติของตำแหน่งงานให้ละเอียด แล้ววิเคราะห์ตัวเองว่าเหมาะสมกับตำแหน่งที่เปิดรับไหม
อย่าลืมค้นหาคำถามที่มักใช้ในการสัมภาษณ์งานจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีคนนำมาแบ่งปันกัน คำถามพื้นฐานอย่างการแนะนำตัวเอง เล่าถึงสิ่งที่เคยทำมาในอดีต และมองชีวิตอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร เหล่านี้คือคำถามทั่วไปที่หากเราตอบได้อย่างมั่นใจก็จะเป็นผลดีต่อการสัมภาษณ์งาน นอกจากนี้ควรไปถึงให้ได้ก่อนเวลาสัมภาษณ์สักประมาณ 30 – 60 นาที เพื่อจะได้ทำความคุ้นเคยกับสถานที่ซึ่งสามารถเป็นส่วนช่วยให้เรามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
ลองอัดวิดีโอสัมภาษณ์ของตัวเอง
คน Introvert มักไม่ค่อยไปขอให้ใครมาช่วยถามคำถามสัมภาษณ์ เพราะอาจคิดว่าเป็นการรบกวนผู้อื่นเกินไป ฉะนั้นการอัดวิดีโอสัมภาษณ์ด้วยตัวเองจึงเป็นการลงทุนเวลาและเงินที่น้อยที่สุด แต่สามารถช่วยให้เราเห็นจุดบกพร่องและแก้ไขได้อย่างตรงจุดมากที่สุดด้วย
ลองอัดวิดีโอสั้น ๆ ฝึกการมองกล้องและยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ อย่าลืมสังเกตดูว่าเราใช้คำว่า “เอ่อ ..” ก่อนการเริ่มต้นตอบคำถามกี่ครั้ง การอัดวิดีโอนี้นอกจากจะเป็นตัวช่วยให้เราเห็นข้อบกพร่องของตัวเองแล้วยังช่วยให้เราพัฒนาบุคลิกภาพไปพร้อมกันอีกด้วย
ไม่โอ้อวด แต่ก็ไม่ถ่อมตัวจนเกินไป
ชาว Introvert หลายคนไม่มั่นใจที่จะพูดถึงความสำเร็จในงานต่าง ๆ ที่เคยผ่านมาของตัวเอง อาจเพราะเป็นธรรมชาติส่วนตัว หรือไม่ก็มาจากความฝังใจในวัยเด็กว่าไม่ควรโอ้อวด แต่การไม่กล้าบอกและแสดงออกถึงความสำเร็จเช่นนี้จะทำให้เราเสียเปรียบคู่แข่งคนอื่นในการสัมภาษณ์ เพราะถึงแม้ผู้สัมภาษณ์จะดูผลงานจากในเรซูเม่หรือแฟ้มสะสมผลงานได้ แต่การบอกเล่าเรื่องราวในเชิงลึกจากตัวเราเองย่อมทำให้เราเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น
ลองปรับมุมมองเกี่ยวกับการพูดถึงความสำเร็จให้เป็นเหมือนการเล่าเรื่องราวความจริงบางอย่างที่เราทำได้เป็นธรรมชาติ ซึ่งส่วนนี้เองที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์ตัดสินใจเกี่ยวกับโอกาสรับเราเข้าทำงานง่ายขึ้น
โชว์จุดขาย ด้วยการบอกข้อดีของการเป็น Introvert
ใครบอกว่าการเป็น Introvert มีเพียงข้อเสีย ข้อดีหลาย ๆ อย่างในเหล่าคน Introvert ก็มี อย่างการเป็นผู้ฟังที่ดีที่พร้อมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ขณะเดียวกันก็มองเห็นโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังเก่งในการเข้าใจผู้คนและรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คนเหล่านั้นกำลังกังวลในชีวิต เหล่า Introvert มักจะเป็นคนที่มุ่งเน้นเรื่องรายละเอียดในงาน มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำงานได้ทั้งงานเดี่ยวและเป็นทีม นอกจากนี้ หากมีเวลาเตรียมตัวที่มากพอคน Introvert ยังสามารถฉายแววเด่นในที่ประชุมและการนำเสนองานด้วย
ลองดูงานประเภทฝ่ายบุคคล (HR), ที่ปรึกษาด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน ธุรกิจ และสุขภาพจิต เป็นต้น, ศิลปิน, นักเขียน, ผู้ตรวจพิสูจน์อักษร, นักบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชี, ครีเอทีฟ, สายงาน IT ฯลฯ ซึ่งงานเหล่านี้จะช่วยให้คน Introvert สามารถฉายแววเด่นได้ตั้งแต่การสัมภาษณ์เลยทีเดียว
อย่าลืมว่าการเป็น Introvert ก็ยังคงมีข้อดีอยู่ในตัว แม้ว่าจะดูเป็นคนที่เงียบขรึมไปสักหน่อย นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะล้มเหลวในการสัมภาษณ์งานทุกครั้งไป เพียงแค่ต้องเตรียมตัวให้มากกว่าปกติและผ่อนคลายในการพูดคุยกับผู้สัมภาษณ์มากขึ้นนั่นเอง
ขอให้โชคดีกับการสัมภาษณ์งานที่ใช่นะคะ
ที่มา : Jobthai.com
