ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ออกจากบ้านแต่ละที ปัญหาสุดหนักใจที่ไม่มีใครหนีพ้นก็คือ เรื่องรถติดนั่นเอง ซึ่งไม่ว่าคุณจะทำงานที่ไหนในกรุงเทพ ช่วงเวลา 7-8 โมงเช้าคุณจะต้องพบเจอกับการจราจรที่แน่นขนัด ไม่เว้นแม้แต่รถไฟฟ้า BTS ก็ตาม ซึ่งทำให้วันวันหนึ่งคุณต้องสูญเสียเวลาในการดำรงชีวิตบนท้องถนนเยอะมาก เฉลี่ยแล้ว 1-3 ชั่วโมงต่อวัน
จะดีกว่าไหม ถ้าคุณสามารถเลือกทำงานใกล้บ้านได้ ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น มีเวลาว่างเยอะขึ้น ได้ทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น และเอาเวลาไปใช้บริหารธุรกิจให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ เพราะแบบนี้เองเหล่าผู้ประกอบการ หรือธุรกิจยุคใหม่ที่เน้นการทำงานผ่านรูปแบบออนไลน์เป็นหลัก จึงเริ่มหันมาใช้ Home Office ซึ่งเป็นทั้งบ้านพักและสำนักงานไปในตัว โดยข้อดีของมันมีดังนี้!
1. ประหยัดเวลาชีวิต
ข้อดีนี้ทุกคนมองเห็นมาโดยตลอด การได้ทำงานอยู่กับบ้าน จะทำให้คุณไม่ต้องขยับเขยื้อนตัวไปไหนทั้งสิ้น คำนวณง่ายๆ ว่าวันหนึ่งคุณต้องใช้ชีวิตบนท้องถนนกว่า 2 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ทำงาน 22 วัน นั่นหมายความว่าคุณทำเวลาในมือหายไปกว่า 44 ชั่วโมง
44 ชั่วโมงนี้เป็นเวลาที่คุณสามารถนำไปใช้ทำอะไรต่างๆ ได้มากมาย ทั้งดูแลธุรกิจ คิดแผนพัฒนา เปิดช่องทางการผลิตใหม่ หรือใช้สำหรับการพักผ่อน แค่เหตุผลนี้ข้อเดียวก็ทำให้คุณตัดสินใจได้ไม่ยากแล้วว่าทำไมถึงต้องทำ Home Office
2. ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นได้เยอะมาก
ถึงแม้การทำ Home Office จะมีค่าไฟที่คุณต้องเสียมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าถ้าไปเช่าออฟฟิศที่อื่นอยู่คุณเองก็ต้องเสียจุดนี้เหมือนกัน และอาจเสียมากกว่าปกติด้วยซ้ำไป ยังไม่รวมค่าน้ำมันไปกลับที่คุณต้องจ่ายไปตลอด ค่ารถประจำทาง ค่ารถโดยสารสาธารณะ
ซึ่งถ้าคุณเช่า Office ปกติที่มีส่วนกลางอย่างลิฟต์ ก็จะโดนชาร์จในเรื่องนี้ด้วย พร้อมตามมาด้วยค่าอินเทอร์เน็ต และอื่นๆ อีกมากมาย การอยู่บ้านและคิดค่าไฟ ค่าใช้จ่ายตามจริง ไม่ต้องออกไปไหนให้เปลืองน้ำมัน จะช่วยประหยัดต้นทุนในการใช้ชีวิตให้เดือนหนึ่งคุณมีเงินเหลือเก็บเยอะขึ้นมาก
3. สุขภาพร่างกาย จิตใจ ดีขึ้นมาก
การนั่งอยู่บนถนนรถติดเป็นเวลานานๆ ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียให้กับร่างกายของคุณอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความเครียดสะสมในจิตใจ ทำให้เกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ตามมา เช่น นอนไม่หลับ เครียด กังวล จนทำให้คุณเป็นโรคอ้วนได้อีกด้วยจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
ซึ่งปัญหาสุขภาพนี้จะส่งผลเสียในระยะยาว อีกทั้งควันจากมลพิษบนท้องถนนก็ส่งผลเสียต่อร่างกายและผิวพรรณโดยตรงโดยเฉพาะกับคุณผู้หญิง
ซึ่งต่างจากการทำงานแบบ Home Office มาก เพราะคุณจะสามารถตื่นสายขึ้นได้ มีเวลาเตรียมตัวตอนเช้า เลิกงานก็ไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อย พักผ่อนได้ทันที มีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
4. สร้างความอิสระให้กับทุกคนในที่ทำงาน
ด้วยความเป็น Home Office ทำให้กฎเกณฑ์ในการใช้ชีวิตนั้นลดน้อยถอยลงไป จากที่คุณไปเช่าเขาอยู่อาจจะต้องใช้ห้องน้ำรวมกับคนแปลกหน้า และเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายเมื่อกลับดึกๆ ดื่นๆ ทำให้น้องในทีมไม่ปลอดภัยที่จะทำงานตัวคนเดียว
แต่ Home Office ของคุณจะทำให้ทุกคนมั่นใจว่าอย่างน้อย คุณจะอยู่ด้วยตลอดเวลา หมดปัญหาการใช้ชีวิตวุ่นวายกับคนมากมาย คุณไม่จำเป็นต้องเข้างาน 8 โมง เลิก 5 โมง เหมือนคนอื่น แต่สามารถเปิด Office ไว้ได้ตลอดทั้งวันให้พนักงานเลือกเวลาทำงานที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเอง
รวมถึงการตกแต่ง Office ก็จะเกิดความสวยงามเพิ่มมากขึ้น เพราะนี่คือพื้นที่ส่วนตัวของคุณ ทำให้คุณมีใจอยากจะดูแลมันให้สวยงาม ต่างกับการเช่าเขาอยู่อย่างชัดเจน
5. เป็นการซื้ออนาคตที่เป็นสินทรัพย์ของคุณอย่างแท้จริง
การเช่า Office อยู่นั้นคุณต้องเสียค่าเช่าทุกเดือน เพียงเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการทำงาน แต่การซื้อ Home Office เงินที่คุณต้องผ่อนมันทุกเดือนจะกลายมาเป็นสินทรัพย์ถาวรของคุณตลอดไป ในอนาคตคุณสามารถที่จะขายมัน หรือปล่อยเช่าต่อได้เมื่อคุณไม่ใช้แล้ว เทียบกับการเอาเงินไปเช่า Office ทั่วไป การลงทุนด้วย Home Office ดูจะคุ้มค่ากว่าในทุกๆ ด้านจริงๆ
