หลายคนประวัติการทำงานดี การศึกษาก็ดี แถมยังมีคุณสมบัติตรงกับงานที่ทำการสมัครอีกต่างหาก แต่กลับพบว่าสมัครไปก็หลายที่หลายตำแหน่งงาน ทำไมไม่มีที่ไหนเรียกสักที บางครั้งมีดีอยู่กับตัว แต่นำเสนอไม่เป็นนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ ลองเช็คดูว่าใน resume ของคุณมีข้อมูลเป๊ะตามนี้ไหม
9 คุณสมบัติของ resume ขั้นเทพ
1. แสดงให้คุณเห็นว่าเป็นผู้สมัครชั้นยอด
ทีมงานที่พิจารณาประวัติย่อของคุณ พวกเขาพยายามมองหาสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จ และสิ่งที่คุณจะเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัท เติมสิ่งเหล่านี้เข้าไปในประวัติส่วนตัวของคุณ
2. วันที่ในประวัติการทำงานต้องเป๊ะ
ปีการศึกษาที่เรียน, ปีการศึกษาที่จบ, วันแรกที่ทำงาน และวันสุดท้ายที่ทำงาน ระบุวันที่เหล่านี้ให้ถูกต้องและชัดเจน อย่าพลาดท่าง่ายๆ ด้วยการใส่ช่วงเวลาต่างๆ ผิด
3. ทำเนื้อหาประวัติส่วนตัวให้ตรงกับงานที่สมัคร
คุณกำลังจะสมัครงานตำแหน่งไหน ก็ให้เรียบเรียงประวัติของคุณให้เหมาะกับงานนั้นๆ นี่ไม่ใช่การบอกให้ทำการโกหก เอาเป็นว่าเน้นในเรื่องของความสามารถที่เข้ากับตำแหน่งงานที่สมัครเข้าไว้ อะไรไม่เกี่ยวก็เพลาๆ ลงหน่อย
4. ใส่ข้อมูลที่สามารถวัดเป็นปริมาณได้
นายจ้างในอนาคตของคุณอาจจะไม่มีเวลามานั่งอ่านรายละเอียดจำนวนมากมายของคุณ ดังนั้นการนำเอา infographic เข้ามาช่วยเป็นทางออกที่ดี เพราะมันจะช่วยให้การนำเสนอข้อมูลเชิงปริมาณทำได้รวดเร็ว
5. คุณมีตัวตนอยู่ในโลกโซเชียลแบบมืออาชีพหรือไม่
ใครที่ยังไม่รู้จัด LinkedIn ให้ไปทำการสมัครแล้วไปแสดงตัวตนอยู่บนนั้น เพราะในโลกของมืออาชีพส่วนใหญ่เขาดูกันที่ตรงนี้ Facebook เก็บเอาไว้ใช้ในเรื่องส่วนตัวเถอะ
6. เอกสารของคุณไม่มีการพิมพ์ผิดใช่ไหม
77% ของคนโดนตัดสิทธิ์เรียกเข้าสัมภาษณ์มาจากการพิมพ์ผิดในประวัติย่อของพวกเขา ดังนั้นอย่าตายน้ำตื้น เพราะถ้าประวัติของคุณเองยังพิมพ์ผิด จะหาความถูกต้องได้จากเรื่องไหนอีก
7. ระบุที่อยู่อีเมล รหัสไปรษณีย์ และหมายเลขโทรศัพท์ เอาไว้ชัดเจนหรือยัง
นี่คือสิ่งสำคัญเพราะถ้าทุกอย่างที่กล่าวไปข้างตน ไม่ชัดเจนหรือผิดพลาด พวกเขาจะไม่มีวันหาคุณเจออีกเลย
8. Resume ต้องมีเสน่ห์ดึงดูดแบบมืออาชีพและมีความทันสมัย
เรื่องนี้อาจจะต้องหาตัวช่วย แต่เชื่อเถอะว่าบนโลกออนไลน์มีตัวอย่างของ resume ที่มีคุณสมบัติอย่างที่ต้องการ ให้เลือกใช้จำนวนมากมาย เลือกอันที่เข้ากับตัวคุณมากที่สุด
9. การใช้ภาษาของคุณต้องน่าสนใจและถูกต้อง
วิธีการเล่าเรื่องและการใช้ภาษาก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าประวัติย่อของคุณมันเหมือนกับข้อมูลที่อยู่ในใบสมัคร คุณคิดว่าคนที่ทำการสัมภาษณ์จะเสียเวลาอ่านมันไหม เล่าเรื่องที่น่าสนใจของคุณเอาชนิดที่คนอ่าน อ่านแล้ววางไม่ลง อ่านแล้วอยากจะเจอตัวจริงของคุณ ต้องทำให้ได้ขนาดนั้น
ทำได้ครบทุกข้อตามนี้ เชื่อได้ว่าคุณจะเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนงานหรือเริ่มต้นงานใหม่ที่คุณต้องการได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว resume แบบเก่าๆ เลิกใช้มันไปได้แล้ว
อ้างอิง: