เปิดขั้นตอนการลงทะเบียน “บ้านดีมีดาวน์” ลงเสร็จเอาไปเลยเงินดาวน์ 50,000 บาท


กระทรวงการคลัง แจง โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” โดยสนับสนุนเงินดาวน์ 50,000 บาท สามารถลงทะเบียน ผ่านเว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com เริ่ม 11 ธ.ค. 62 ถึง 31 มี.ค.63

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” โดยให้การสนับสนุนเงินดาวน์ 50,000 บาท แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยสามารถเข้าร่วมโครงการโดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com ได้ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562 เวลา 08.00 น. จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 และจะต้องได้รับการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินและจดจำนองตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 คนละ 1 สิทธิ์ (1 บัตรประชาชนต่อ 1 สิทธิ์)

กระทรวงการคลังได้มีการประชุมร่วมกับ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ทั้ง 3 สมาคมได้ยืนยันความพร้อมในการสนับสนุนโครงการ รวมถึงพร้อมมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยสนับสนุนประชาชนผู้ซื้อที่อยู่อาศัย เช่น บางโครงการได้ช่วยสนับสนุนค่าธรรมเนียมการโอนร้อยละ 0.01 และค่าจดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป เป็นต้น

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้มีการประชุมร่วมกับสถาบันการเงิน จำนวน 19 แห่ง เพื่อชี้แจงรายละเอียดหลักเกณฑ์ แนวทางในการปฏิบัติ และแนวทางการตรวจสอบ ตลอดจนการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ อีกทั้ง สถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้เข้าร่วมโครงการ “บ้านดีมีดาวน์”

ในส่วน สถาบันการเงินของรัฐได้มีการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อให้สอดรับกับมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2562 ระยะที่ 2 ที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งมีการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือร้อยละ 0.01 สำหรับที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ทั้งนี้ จากความร่วมมือระหว่างธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินของรัฐ และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว จะช่วยให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐสามารถบรรลุเจตนารมณ์ในการส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ให้มีการขยายตัวอย่างมีศักยภาพในปี 2563 ต่อไป