หน้าร้านอยู่ไม่ไหว! มาดู “เงื่อนไขและวิธีสมัคร Food Delivery” ทำยังไง


ในสถานการณ์ตอนนี้เชื่อว่าร้านอาหารจะต้องมองหาทางออกสำหรับความอยู่รอดของร้าน และหนึ่งในตัวเลือกก็คือการใช้บริการ Food Delivery ที่มีให้เลือกมากมายหลายเจ้า เราจึงทำการรวบรวมขั้นตอนการสมัครของแต่ละเจ้ามาให้ ลองเลือกดูว่าอันไหนเหมาะกับร้านอาหารของคุณ ข้อมูลที่นำเสนอเรารวบรวมมาให้ทั้งข้อดีข้อเด่นในเรื่องของส่วนแบ่ง, ค่าบริการ และอื่น ๆ อีกมากมาย เลือกแล้วรีบเสริมเขี้ยวเล็บให้ธุรกิจของคุณตั้งแต่วันนี้

Foodpanda

ขั้นตอนการสมัคร

1. ลงทะเบียนที่ foodpanda.co.th

2. รอการตรวจสอบเพื่ออนุมัติร้านอาหาร

3. รอรับเอกสารสัญญา

4. เซ็นสัญญาเพื่อรับทราบข้อตกลง

5. ตรวจสอบเมนูอาหารและราคาว่าถูกต้องหรือไม่

6. รับอุปกรณ์แท็บเล็ตจากทาง Foodpanda

7. ศึกษาการใช้งานต่าง ๆ จากแท็บเล็ตที่ส่งมาให้

8. เริ่มให้บริการได้

ค่าสมัคร

-ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

ค่าส่วนแบ่งของผู้ให้บริการ

-คิดค่าส่วนแบ่งของผู้ให้บริการ 35% (ก่อนหักภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) จากมูลค่าของออร์เดอร์ทั้งหมดที่สั่งผ่านทาง Foodpanda
-สำหรับการชำระผ่านบัตรเครดิต ได้รับการละเว้นค่าธรรมเนียม 3%

การกำหนดราคาอาหาร

-ตั้งราคาตามจริงเหมือนหน้าร้าน เนื่องจาก Foodpanda มีนโยบายการันตีเรื่องราคา

ช่องทางเช็คออร์เดอร์เข้า

-เช็กคำสั่งซื้อผ่านแท็บเล็ตที่ทาง Foodpanda มอบให้

รอบการตัดเงิน

-วันตัดรอบเงินคือทุก ๆ สิ้นเดือน โดยใบแจ้งยอดและรายงานจะถูกส่งเข้าอีเมลของร้านภายในวันที่ 2-7 ของเดือนถัดไป
-ทางร้านต้องยืนยันรายการภายในวันที่ 13 ของทุกเดือน
-เงินจะถูกโอนภายในเวลา 15.00 น. ทุกวันที่ 16-20
-ส่วนเอกสารจะถูกส่งผ่านไปรษณีย์ระหว่างวันที่ 28-31 ของเดือนถัดไป

พื้นที่ทำการ

-ภาคกลาง: กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, พิษณุโลก, นครสวรรค์, นครปฐม, กำแพงเพชร, สุโขทัย, ราชบุรี, อยุธยา และพิจิตร

-ภาคเหนือ: เชียงใหม่, เชียงราย, อุตรดิตถ์, ลำปาง, ลำพูน, แพร่ และน่าน

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ขอนแก่น, นครราชสีมา, อุดรธานี, อุบลราชธานี, บุรีรัมย์, มหาสารคาม, หนองคาย, สุรินทร์ และ ร้อยเอ็ด

-ภาคตะวันออก: ชลบุรี (เฉพาะอำเภอพัทยา) และระยอง

-ภาคตะวันตก: ประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะอำเภอหัวหิน) และตาก

-ภาคใต้: สงขลา (เฉพาะอำเภอหาดใหญ่), ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, ยะลา, ตรัง และพัทลุง

ข้อมูลเพิ่มเติม

foodpanda.co.th

Get Food

ขั้นตอนการสมัคร

1. สมัครที่ getthailand.com โดยต้องแนบเอกสารเพื่อเป็นหลักฐาน

สำหรับบุคคลทั่วไป
-สำเนาบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า และหลังบัตร
-ลายมือชื่อ
-สำเนาบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน
-สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.20 (ถ้ามี)

สำหรับนิติบุคคล
-สำเนาบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า และหลังบัตร พร้อมลายเซ็น
-สำเนาบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน (เป็นบัญชีในนามของนิติบุคคล)
-สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.20 (ถ้ามี)
-สำเนาทะเบียนพาณิชย์ หรือทะเบียนการค้าโดยจดทะเบียน (ถ้ามี)
-สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท, ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือหนังสือจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ

2. กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย

3. ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาของ Get Food ซึ่งจะมีสิทธิพิเศษและรายละเอียดที่ควรรู้สำหรับร้านค้า

4. รอเจ้าหน้าทิ่ติดต่อกลับ

ค่าสมัคร

-ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ค่าส่วนแบ่งของผู้ให้บริการ

-30% (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) จ่ายภายใน 30 วัน นับจากวันที่บนใบแจ้งหนี้

การกำหนดราคาอาหาร

-ตั้งราคาตามจริง เพราะ Get Food จะบวกเพิ่มค่าจัดส่งตามระยะทางเอง

ช่องทางเช็คออร์เดอร์เข้า

-สามารถดูได้ใน GoBiz แอปพลิเคชันสำหรับร้านค้า เพื่อการจัดการแก้ไขข้อมูลร้านและรับออร์เดอร์ พร้อมทั้งตรวจสอบยอดขายโดยเฉพาะของ GET FOOD

รอบการตัดเงิน

-รับเป็นเงินสด

พื้นที่ทำการ

-เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ข้อมูลเพิ่มเติม

getthailand.com

Grab Food

ขั้นตอนการสมัคร

1. สมัครผ่านเว็บไซต์ grab.com

2. รอรับเอกสารสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ทางอีเมล โดยรอบของการส่งเอกสารจะเป็นทุกวันศุกร์ (หากลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เข้ามาในวันศุกร์ จะได้รับเอกสารสัญญาในวันศุกร์ถัดไป)

3. ทำการเซ็นสัญญาภายในวันอาทิตย์ก่อนเที่ยง เพื่อรับสิทธิ์การตรวจสอบเอกสารในวันจันทร์ (หากล่าช้ากว่าวันอาทิตย์ จะต้องรอรับการตรวจสอบในรอบสัปดาห์ต่อไป)

การส่งมอบหลักฐานและเอกสาร ผ่านทางหน้า Grab Food App

หลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ของบุคคลทั่วไป

– สำเนาบัตรประชาชน

– สำเนาบัญชีธนาคาร (ต้องมีรายการเคลื่อนไหว)

– รูปถ่ายร้านอาหารที่เห็นชื่อร้านและพื้นที่โดยรอบชัดเจน

– ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) (ถ้ามี)

– หากมีใบรับรองมาตรฐานอาหารฮาลาล ก็สามารถแนบประกอบการส่งเอกสารด้วยได้ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ได้อย่างชัดเจน

หลักฐานและเอกสารต่าง ๆ ของร้านค้าที่เป็นนิติบุคคล

– ใบจดทะเบียนรับรองบริษัท ที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (โดยวันที่ออกหนังสือรับรองจะต้องไม่เกินระยะเวลา 3 เดือน นับจากวันที่มีผลบังคับใช้)

– ใบจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20)

– สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจในการลงลายมือ

– สำเนาบัญชีธนาคาร (ต้องมีรายการเคลื่อนไหว) พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

– รูปถ่ายร้านอาหารที่เห็นชื่อร้านและพื้นที่โดยรอบชัดเจน

– ผู้มีอำนาจลงนามจะต้องเซ็นรับสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตราบริษัทในเอกสารทุกฉบับ

– หากมีใบรับรองมาตรฐานอาหารฮาลาล ก็สามารถแนบประกอบการส่งเอกสารด้วยได้ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ได้อย่างชัดเจน

4. เมื่อเอกสารและสัญญาผ่านการตรวจสอบแล้ว จะได้รับ SMS เรียนรู้วิธีการเปิดร้านค้า หากไม่ผ่าน จะมี SMS แจ้งกลับมา (ร้านค้ามีสิทธิ์ยื่นใหม่ได้อีก 3 ครั้ง ถ้าครบจำนวนครั้งที่กำหนดแล้วหากยังต้องการสมัครให้เปลี่ยนอีเมลที่ใช้ในการสมัคร

5. เพิ่มเมนู, รูปภาพ และราคา ใน Grab Food App ก่อนเปิดให้บริการ

ค่าสมัคร

-ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ค่าส่วนแบ่งของผู้ให้บริการ

-35% (ก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ของค่าอาหารที่ถูกสั่ง เป็นระยะเวลา 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลงชื่อเซ็นสัญญา

การกำหนดราคาอาหาร

-สามารถคิดตามจริงหรือบวกเพิ่มได้ ระหว่างที่เสียค่าส่วนแบ่งของผู้ให้บริการ
-ปรับราคาเพื่อทำดีลกับโค้ดส่วนลดต่าง ๆ แต่ต้องระวังเรื่องราคาหน้าร้านกับราคาในแอปฯ อาจจะไม่ตรงกัน

ช่องทางเช็คออร์เดอร์เข้า

-ดูคำสั่งซื้อผ่าน GrabFood Merchant Application

รอบการตัดเงิน

-ยอดเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารภายใน 1-2 วัน สามารถตรวจสอบยอดขายได้จาก GrabFood Merchant Application

พื้นที่ทำการ

-ภาคกลาง: กรุงเทพฯ และปริมณฑล, พิษณุโลก, นครสวรรค์ และนครปฐม

-ภาคเหนือ: เชียงใหม่, เชียงราย, อุตรดิตถ์ และลำปาง

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ขอนแก่น, นครราชสีมา, อุดรธานี, อุบลราชธานี, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม

-ภาคตะวันออก: ชลบุรี (เฉพาะอำเภอพัทยา) และระยอง

-ภาคตะวันตก: ประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะอำเภอหัวหิน)

-ภาคใต้: สงขลา (เฉพาะอำเภอหาดใหญ่), ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี

ข้อมูลเพิ่มเติม

grab.com

Wongnai และ Line Man Delivery

ขั้นตอนการสมัคร

1. ดาวน์โหลด Wongnai Merchant App บน Android หรือ iOS

2. กรอกข้อมูลร้านค้าใน Wongnai Merchant App เปิดแอปฯ แล้วเลือก “ลงทะเบียนร้าน”

3. กรอกชื่อร้าน ประเภทธุรกิจ หมวดหมู่ เลือกตำแหน่งร้านค้าจากแผนที่ รายละเอียดผู้ติดต่อ ให้ครบถ้วน

4. รอรับรหัส OTP เพื่อยืนยันตัวตน

5. กรอกรหัส OTP จากนั้นกรอกข้อมูลร้านและเมนูที่ขายตามคู่มือที่ได้รับ

6. เริ่มขายผ่าน LINE MAN ได้ทันที

ค่าสมัคร

-ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ค่าส่วนแบ่งของผู้ให้บริการ

-ไม่มีการหักค่าส่วนแบ่งใด ๆ
-แต่หากอยากโปรโมตเพิ่มเติมในส่วนของ Delivery ก็จะมีค่าใช้จ่ายเป็น Package เลือกเพิ่มได้

การกำหนดราคาอาหาร

-เจ้าของร้านคิดได้ตามจริง เพราะ Lineman จะบวกเพิ่มค่าจัดส่งตามระยะทางเอง

ช่องทางเช็คออร์เดอร์เข้า

-ดูผ่าน Wongnai Merchant App บนโทรศัพท์มือถือ

รอบการตัดเงิน

-รับเป็นเงินสดทันที

พื้นที่ทำการ

-กรุงเทพฯ และปริมณฑล
-ชลบุรี
-อยุธยา

ข้อมูลเพิ่มเติม

-02 821 5788
-Lineman
wongnai.com