การทำงานร่วมกันกับเพื่อน มองเผินๆ อาจจะเหมือนเราได้มีกำลังหลักที่คอยสนับสนุนและช่วยเหลือ ทำให้ธุรกิจผ่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็วกว่าการทำคนเดียวหลายเท่า เหมือนมีคนคอยระหวังหลังให้กันตลอดเวลา เป็นความฝันอันแสนหวานของใครหลายคน
แต่ในทางกลับกัน เพราะความใกล้ชิดสนิทสนมนี่แหละครับที่ทำให้จากเพื่อนสนิท กลายเป็นเลิกคบกันมานักต่อนักแล้ว
เพราะการทำงานต้องเจออุปสรรคต่างๆ มากมาย รวมถึงปัญหาที่ไม่สามารถตัดสินใจได้คนเดียว บางครั้งความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน หรือบางครั้งก็มีทั้งเรื่องของบทบาท หน้าที่ การเงิน ต่างๆ เข้ามาบั่นทอนความเป็นเพื่อนให้เกิดการคิดเล็กคิดน้อยขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นถ้าใครอยากจะทำธุรกิจกับเพื่อนสนิท หรือคนใกล้ชิดให้ไปรอด แนะนำเลยว่าต้องเตรียมตัว 4 เงื่อนไขเหล่านี้ให้พร้อม
ตกลงเรื่องการเงินกันตั้งแต่แรก
ในระยะเริ่มต้นที่ธุรกิจยังไม่มีการตั้งตัวได้ หรือยังทำกำไรไม่เข้าเป้า ทั้งเราและเพื่อนอาจจะมองว่าควรใช้ใจทำงาน แสดงให้เห็นถึงความรักในธุรกิจที่ทำจริงๆ แต่เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อใช้ใจมาได้ระยะหนึ่งก็จะเกิดความเปรียบเทียบขึ้นระหว่างคุณและเพื่อนว่า ใครทำงานหนักกว่ากัน และกลายเป็นการคิดเล็กคิดน้อยจนเป็นปัญหาบานปลายในอนาคต
ทางออกที่ดีที่สุดคือ คุณและเพื่อนต้องทำสัญญาลายลักษณ์อักษรเลยว่า ใครต้องจ่ายมากกว่า และต้องทำงานหนักกว่า เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่มากกว่าเช่นกัน รวมถึงต้องมีหลักฐานในการเบิกจ่ายสิ่งต่างๆ ทุกครั้ง ไม่ใช่ใช้เงินส่วนตัวออกและคิดว่า ‘นิดหน่อย ไม่เป็นไร ช่างมัน’ เพราะสุดท้ายส่วนต่างๆ ที่ใช้เงินตัวเองออกพวกนี้ ก็จะกลายเป็นคำอ้างเวลาทะเลาะกัน ว่ามีใครคนใดคนหนึ่งจ่ายเงินส่วนตัวไปมากกว่าอีกคน ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้นเลย ถ้ามีการตกลงค่าใช้จ่ายผ่านบัญชีบริษัทแต่แรก
แบ่งบทบาทกันให้ชัดเจนไปเลย
เพื่อนก็ส่วนเพื่อน พาร์ทเนอร์ ก็ส่วนพาร์ทเนอร์ ต้องแยกแยะออกจากกันให้ได้ เป็นสิ่งที่คุณและเพื่อนต้องทำความเข้าใจกันให้ดี ต้องมีการทำงานอย่างจริงจัง เป็นขั้นตอน และมีระบบ กำหนดกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามทั้งสองฝ่าย อย่าใช้ความสนิทมาหาประโยชน์ หรือหยวนกันจนกลายเป็นเอาเปรียบอีกฝั่งหนึ่ง เพราะสุดท้ายก็จะนำไปสู่เรื่องไม่สบายใจ และเป็นปัญหาใหญ่ที่รอวันระเบิด
ตกลงบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนกันเลยตั้งแต่วันเริ่มงาน ว่าใครดูแลส่วนไหน ยังไง มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องอะไรบ้าง จะได้ไม่มีการผิดใจในคำตัดสินของกันและกันเวลาปัญหาไม่ลงตัว
เชื่อใจ ไว้ใจ ให้เกียรติ
คนเราแต่ละคนก็เก่งในด้านที่ต่างกันออกไป บางคนอาจเก่งในเรื่องการจัดการ แต่บางคนอาจเก่งในเรื่องบัญชี ก็สามารถใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันได้ โดยการกำหนดบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน และแบ่งงานกันทำ ไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งรับงานมากกว่าอีกคนเด็ดขาด และต้องไว้วางใจในการทำงานอยู่เสมอ ธุรกิจระหว่างเพื่อนจึงจะไปรอด
เพียงคุณไม่ยึดถือความคิดตัวเองเป็นใหญ่ และมั่นใจในคำแนะนำ รวมถึงให้เกียรติเพื่อนในฐานะที่เขาทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เก่งกว่า ก็จะทำให้ธุรกิจขยับขยายและเดินหน้าไปในทิศทางที่ควรจะเป็นได้ อย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่กว่าใครเด็ดขาด
ไม่โทษกันเอง แต่ต้องคอยให้กำลังใจ
แน่นอนว่าไม่มีการตัดสินใจของใครที่จะถูกต้องได้ 100% หลายครั้งที่คนเรามีความคิดเห็นไม่ลงตัว และเมื่อเลือกเดินทางไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ก็กลับพบว่ามันเป็นทางที่ผิด ซึ่งพาร์ทเนอร์ที่ดีจะคอยให้กำลังใจกับคนตัดสินใจ มากกว่าจะคอยซ้ำเติมว่า ‘ฉันบอกแล้วใช่ไหม’ เพราะอย่าลืมนะครับว่าสุดท้ายแล้วบริษัทนี้ก็เป็นของพวกคุณทั้งคู่ การซ้ำเติมไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น การให้กำลังใจและช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างหากที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ