ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
ช่วงวันหยุดแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงมองหากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายในวันที่ไม่ต้องทำงาน หนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากผู้คนที่กลายเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวในยุคโควิด-19 คงหนีไม่พ้น การท่องเที่ยวลักษณะ “แคมปปิ้ง” นั่นเอง
หากใครเป็นผู้ชื่นชอบเล่นสังคมออนไลน์ เราจะสังเกตเห็นเพื่อน ๆ ชอบถ่ายรูป เช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับกางเต็นท์ แน่นอนว่าเทรนด์การท่องเที่ยวแนวนี้กำลังได้รับความสนใจ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติอย่างแท้จริง
ด้วยโอกาสของตลาดที่ยังเปิดกว้างจึงทำให้ผู้ประกอบการเล็งเห็นที่จะทำธุรกิจเพื่อตอบสนองเทรนด์การท่องเที่ยวสายธรรมชาตินี้ หากสำรวจธุรกิจแนวแคมป์ปิ้งของเอกชนพบว่าเกิดขึ้นมากมายใกล้ ๆ กับกรุงเทพมหานครที่ ไม่ว่าจะเป็นเพชรบุรี, สระบุรี, นครนายก, สุพรรณบุรี
เมื่อมองถึงเหตุผลว่าเพราะอะไรการท่องเที่ยวแนวแคมป์ปิ้งถึงเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการอยากท่องเที่ยวแบบสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยต้องไม่ลืมว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กินระยะเวลานานทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก เช่นเดียวกับการเดินทาง อีกทั้งธุรกิจท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อยทำให้ต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และรองรับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป
ดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวแนวแคมป์ปิ้งจะเหมาะกับกลุ่นคนรุ่นมิลเลนเนียลที่มีความชื่นชอบกิจกรรมกลางเต็นท์ ผจญภัย และสำรวจธรรมชาติ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะไม่เห็นกลุ่มคนรุ่นพ่อแม่จะมาท่องเที่ยวแนวนี้
แล้วคนที่อยากจะทำธุรกิจแคมป์ปิ้งต้องมีความพร้อมเรื่องอะไรบ้าง เรามาดูกัน
1.สถานที่ต้องดึงดูด
เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจแคมป์ปิ้งจะเป็นการให้นักท่องเที่ยวมาเช่าลานกลางเต็นท์ ซึ่งจะมีทำเลติดกับ อ่างเก็บน้ำ, น้ำตก, ทะเล, ภูเขา ดังนั้น เรื่องแรกที่จะต้องทำคือการเลือกสถานที่ ดูว่าถนนหนทางสะดวกต่อการเดินทางหรือไม่ โดยอาจจะใช้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางแล้วลองคำนวณดูว่าหากจะเดินทางมาที่นี่จะสะดวกหรือไม่
2.ลานกางเต็นท์ ต้องมีมาตรฐาน
กรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กำหนดหลักฐานลานกางเต็นท์ แบ่งเป็น 5 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.ลักษณะของพื้นที่, 2.สิ่งอำนวยความสะดวก, 3.การบริหารและการจัดการ, 4.กิจกรรมการเรียนรู้ และ 5.การมีส่วนร่วมกับชุมชน
3.ความพร้อมของสถานที่
ก่อนที่จะเปิดธุรกิจแคมป์ปิ้ง ลองเป็นนักท่องเที่ยวสักครั้ง ไปสำรวจดูว่าเมื่อเราไปเที่ยวแนวนี้แล้ว เรามีความต้องการเรื่องอะไรบ้าง อะไรคือจุดแข็ง จุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นสิ่งอำนวยความสะดวกของสถานที่ไม่ว่าจะเป็น ห้องน้ำ, ปลั๊กไฟ, กิจกรรมให้ทำ, เครื่องครัว (สำหรับทำอาหาร), ที่จอดรถ
อย่างไรก็ตาม จากที่กล่าวมาเป็นแค่ภาพกว้างของธุรกิจเท่านั้น เป็นความรู้พื้นฐานหากอยากจะทำธุรกิจแคมป์ปิ้ง ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจน่าสนใจในช่วงโควิด-19 นี้
แหล่งอ้างอิง: bangkokbiznews, กรมการท่องเที่ยว, prachachat