สำหรับคนที่มี DNA หรือคุณสมบัติของการเป็น ‘นักล่าฝัน’ อยู่ในตัว ไม่ว่าจะเจอปัญหาอุปสรรคใด ๆ สิ่งแรกเขาจะ ‘ไม่อ้าง’ และเตรียมรับมือตั้งรับ กล้าเผชิญ หรือมีวิธีการแก้ไขกับปัญหาอุปสรรคเหล่านั้นได้ดี ขอเพียงไม่ท้อแท้ ไม่หวั่นไหว หรือท้อได้ พักเดี๋ยวก็ลุกขึ้นลุยต่อ ท้อได้แต่อย่าถอย..
เพราะคนเหล่านั้นรู้ดีว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามา มันคือสิ่งที่ต้องเจอ คือบททดสอบ คือ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทางไม่มีใครหนีพ้น แต่หากไม่หยุดทำ ไม่หยุดเดินเสียอย่าง ปลายทางนั้นแน่นอนว่า คือ รางวัลที่รอพวกเขาอยู่เพื่อที่จะได้เก็บเกี่ยวและเชยชมสมความตั้งใจในใม่ช้าอย่างแน่นอน
แต่สำหรับคนที่รู้ตัวดีว่า ไม่ได้มีจิตใจความเป็นนักสู้ที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวขนาดนั้น ในการที่จะเริ่มต้นหรือตัดสินใจทำอะไรที่ไม่เคยทำ มักจะมี ‘ข้ออ้าง’ เสมอ นั่นแหละ ! จึงทำให้สิ่งที่คุณฝันไว้ ไม่ได้ลงมือทำ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง และไม่สำเร็จสักที
ลองไปดูว่า มี ‘ข้ออ้าง’ อะไรบ้าง ที่เป็นเหมือนยักษ์ตนใหญ่ ยืนจังก้าขวางเส้นทางสู่ความสำเร็จของคุณ
อ้างว่า ไม่มีความรู้ : ไม่เคยมีใครรู้หรือเก่งมาตั้งตาเกิด คำนี้เปรียบเทียบและใช้ได้จริง คนที่เขาไม่รู้ เขาก็เริ่มต้นจากการศึกษาค้นคว้าจากช่องทางต่าง ๆ หรือถามผู้รู้ หรือออกไปแสวงหาโอกาส ไปเรียนรู้จากคนแปลกหน้า จากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ครูพักลักจำ และนำกลับมาทดลองทำด้วยตัวเอง จนเกิดความชำนาญ มีประสบการณ์ และเกิดเป็นความรู้ใหม่ที่ติดตัวเพิ่มขึ้น เชื่อสิ คุณก็ทำได้
อ้างว่า ไม่มีเงิน : คนจน เยอะกว่าคนรวย เพราะฉะนั้น แต่ละคนก็เริ่มต้นแสวงหาโอกาส อดทน มุ่งมั่น พยายามสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างอาชีพ จากต้นทุนของตัวเองเท่าที่มี หลายคนเริ่มต้นจากติดลบเสียด้วยซ้ำ แต่รู้จักพลิกแพลง รู้จักเจรจาพูดคุย รู้จักขอความช่วยเหลือจากคนที่พร้อมจะให้ดอกาส ขอเพียงคุณมีความจริงใจ ซื่อสัตย์ ย่อมแสดงให้เห็นว่า การไม่มีเงินหรือมีเงินน้อยไม่ใช่ปัญหา หากมีคนหรือตัวแปรที่มอบโอกาสให้กับคุณแล้ว คนที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อย ก็สามารถยกระดับตัวเองให้มีฐานะและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้
อ้างว่า ไม่มีเวลา : ขอนี้ Back to Basic มาก ๆ เพราะทุกคนย่อมต้องเคยพูดเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริง ๆ ทุกคนมีเวลาใช้ชีวิต 1 วันเท่ากัน ในที่นี้ การไม่มีเวลา ตีความได้เลยว่า คุณขี้เกียจ ! ลองมองคนที่เขาสู้ชีวิต หรือคนที่เขาหาเช้ากินค่ำ หรือชีวิตต้องดิ้นรนแบบสุด ๆ พวกเขาเหล่านั้นแทบจะไม่ได้พักผ่อน นอนหลับไม่กี่ชั่วโมง ต้องตื่นแต่เช้า-กลับดึก เพื่อออกไปทำมาหากิน ด้วยความจำเป็น หรือเป้าหมายที่เขาตั้งธงไว้ จึงทำให้ยอมที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องไม่มีเวลา ฝืนเรี่ยวแรงและจิตใจตัวเองเพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จให้ได้
อ้างว่า ไม่มีเรี่ยวแรง : จริงอยู่ สัจธรรมข้อนี้ มนุษย์ฝืนสังขารของตัวเองไม่ได้ ร่างกายและเรี่ยวแรงย่อมเสื่อมถอยไปตามวัย แต่สมมติว่า คุณอยากจะทำอะไรใหม่ ๆ คุณสามารถมองหาวิธีการใหม่ ๆ ที่จะทำสิ่งนั้นให้ได้ หรือหากิจกรรม ความชอบ หรืออาชีพที่เหมาะสมวัยกับคุณได้ ไม่จำเป็นต้องโลดโผน เน้นใช้แรงอย่างเดียวจริงไหม เช่น อยากไปเที่ยว แต่ไม่มีแรงขับรถแล้ว คุณก็จ้างรถนำเที่ยว หรือให้ลูกหลานขับไปให้ หรือ อยากเปิดร้านอาหาร แต่ไม่มีแรงทำ คุณอาจมองหาหุ้นส่วน หรือจ้างคนมาขายแทนคุณได้ เป็นต้น
อ้างว่า หมดไฟ : ในที่นี้ คือ ไม่อยากทำอะไรเลย หรือไม่อยากทำในสิ่งเดิม ๆ ซ้ำซาก จึงเป็นข้ออ้างว่า หมดไฟแล้ว ซึ่งจริง ๆ เกิดขึ้นได้กับทุกคน ยกตัวอย่างง่าย ๆ ผู้เขียนก็มีอาการหมดไฟในการทำงานด้านงานเขียนอยู่บ่อย ๆ แต่ลองหาวิธีการเติมเชื้อไฟใส่เข้าไปใหม่ เช่น เปลี่ยนสถานที่ทำงาน ตามร้านกาแฟ หรือ พักเบรกจากงานที่ทำสักพัก ออกไปจิบกาแฟ ฟังเพลงให้ผ่อนคลาย หรือลาพักร้อน ออกไปท่องเที่ยว 3-4 วัน เป็นวิธีง่าย ๆ ช่วยให้คุณกลับมาโฟกัสงานที่ทำอยู่ได้ดีเหมือนเดิม
ข้ออ้าง มีกันทุกคน แต่จะ อ้าง ตลอดไปในเรื่องเดิม ๆ คงไม่ได้ เพราะคุณจะถูกมองว่า เป็นคนไม่รับผิดชอบ ไม่น่าเชื่อถือ ขี้เกียจ และทำอะไร ๆ ก็ไม่สำเร็จสักที เพราะฉะนั้น ขอให้เริ่มต้นลองทำในสิ่งที่คุณเคยอ้าง ลองทำให้สุด ๆ ดูก่อน เพื่อจะได้รู้ว่า มันเหมาะสมที่จะเป็นข้ออ้างต่อไป หรือเอาเข้าจริง ๆ คุณก็ทำได้นี่ !