เทคนิค ‘ขึ้นราคาสินค้า’ ให้ดูไม่น่าเกลียด


พ่อค้าแม่ค้า หรือคนทำธุรกิจ เวลาต้นทุนสินค้าขึ้นราคา ครั้นจะขึ้นราคาสินค้าตาม ก็กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เอ็นดูลูกค้า กลัวว่าลูกค้าจะบ่น แล้วหนีหาย เพราะปรับราคาสินค้าแพงขึ้น แต่ตัวเองก็จะแย่อยู่แล้ว ต้องแบกรับต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่่งก็ไม่มีทีท่าจะลดลง แล้วจะเอายังไงดีล่ะทีนี้ ?

 

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าท่านใด ที่อยากปรับราคาสินค้า แต่ก็แคร์ลูกค้า กลัวลูกค้าหนีหายหมด แอดฯ มีเทคนิคการขึ้นราคาสินค้าอย่างไร ให้ลูกค้ายังไม่หนีหาย เป็นเคล็ดไม่ลับ อ่านจบเอาไปทำได้จริง ปรับขึ้นสินค้าเนียน ๆ แบบลูกค้ายังอยู่กับคุณเหมือนเดิม

 

 

เปิดช่วงโอกาสพิเศษ ! จัดส่งฟรี ! หรือมีส่วนลดค่าจัดส่ง

การสร้างกลยุทธ์ การยื่นข้อเสนอว่า ฟรี ! ค่าจัดส่ง หรือมีส่วนลดในค่าจัดส่ง ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการจะปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะการได้รับส่วนลดการจัดส่ง ช่วยให้เกิดความรู้สึกว่า ลูกค้าซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง แต่จริง ๆ แล้วหากคำนวณดูจากราคาสินค้าที่ได้ปรับขึ้นแล้ว แต่ฟรีจัดส่งแบบลงทะเบียน หรือจัดส่ง EMS ในราคาพิเศษ ก็ยังคงได้กำไรอยู่ดี

 

 

จัดโปรโมชั่น ! อัดของแถม !

“โปรโมชั่น” ช่วยกระตุ้นการขายได้ในทุก ๆ วิกฤต เพราะการมีช่วงโปรโมชั่น เท่ากับว่า ช่วงเวลานั้นต้องพิเศษแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น ให้คุณลองใช้การจัดโปรฯ ซื้อสินค้าแล้วมีของแถม เช่น ซื้อรองเท้ากีฬา แถมเสื้อยืดสวย ๆ สักตัวในช่วงเวลาที่ระบุหรือจำกัดจำนวน โดยปกติราคารองเท้ากีฬา 1 คู่ ราคา 1,000 บ. เมื่อจัดโปรแบบนี้ก็ตั้งราคาเพิ่มเป็น 1,200 บ. เมื่อหมดช่วงโปรโมชั่นนี้ หรือเวลาผ่านไป ก็ยังคงสามารถขายรองเท้าในราคา 1,200 บ.ได้ โดยไม่ต้องแถมเสื้อแล้ว

 

 

เปลี่ยน Packaging ให้ดูดีขึ้น

สินค้ารูปลักษณ์ดี ย่อมดูมีราคา ดังนั้น พ่อค้าแม่ค้าควรลองปรับราคาสินค้าไปพร้อม ๆ กับการปรับบรรจุภัณฑ์ หรือที่ใส่สินค้า ให้ดูสวยขึ้น ให้ลูกค้ารู้ได้ว่า สินค้ามีการเปลี่ยนแปลง เพียงเท่านี้ ก็ช่วยทำให้เกิดความรู้สึกคุ้มค่าในการซื้อของลูกค้าแล้ว

 

 

บอกลูกค้าไปตรง ๆ ว่า ปรับราคา

เมื่อหมดมุก ก็ต้องบอกกันตรง ๆ แต่แสดงความจริงใจเข้าไว้ ชนะใจลูกค้าชัวร์ ! เพราะการที่พ่อค้าแม่ค้า ใส่ความจริงใจลงไปในการขาย กล้าที่จะบอกกับลูกค้าตรง ๆ ว่า ขอปรับราคา สิ่งนี้จะช่วยการันตีได้ถึงความซื่อสัตย์ของการขายสินค้า ซึ่งผู้บริโภคยุคนี้เข้าใจดี หากสินค้าและบริการของคุณดีจริง คุ้มค่าคุ้มราคา ผู้บริโภคหรือลูกค้าของคุณก็ยอมจ่ายนะ

 

การค้าขายหรือทำธุรกิจใด ๆ ก็ตามแต่ เจ้าของย่อมมุ่งหวังผลกำไร แต่การเห็นอกเห็นใจลูกค้า ก็ต้องไม่ลืมเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ก็ต้องยึดหลัก ‘ใจเขาใจเรา’ เอ็นดูเขามากไป เอ็นเราก็ขาด

ดังนั้น ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ดู อธิบายและให้ข้อมูลกับลูกค้า ด้วยความสุภาพนอบน้อม เชื่อว่า ลูกค้าที่น่ารักของคุณย่อมต้องเข้าใจอย่างแน่นอน