ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
คนเหล่านี้ มักจะมีประโยคขึ้นต้นว่า “ฉันคิดว่า……” ก่อนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของเขา และปล่อยให้แนวคิดของเขากระจายไปทั่วพื้นที่ มีความคิดหรือไอเดียใหม่ ๆ มาพูดคุยเสมอ แต่ปราศจากการการดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น ปัญหาของคนเหล่านี้ คือ ไม่รู้จักแปลงความฝันให้เป็น ธุรกิจส่วนตัว ที่ทำกำไรได้จริง
ทักษะทางธุรกิจเป็นเรื่องที่ฝึกฝนได้ ยิ่งในปัจจุบันแหล่งข้อมูลความรู้ภาคทฤษฎีหรือเรื่องราวทางธุรกิจ สามารถหาชมหาอ่านได้ไม่ยากเลย แต่ทั้งหมดคงไม่มีความหมายใด เปรียบเสมือนนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาทฤษฎีแต่ไม่เคยเข้าห้องปฎิบัติการณ์ ธุรกิจส่วนตัว ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน ปัญหาของคนเหล่านี้ คือ หาข้ออ้างที่จะไม่พัฒนาตนเองในทักษะการทำธุรกิจใด ๆ
ทุกคนย่อมมีความกลัวในสิ่งแปลกใหม่หรือสิ่งที่ไม่เคยทำ ไม่เคยมีประสบการณ์ และนั้นคือข้อดีของการเรียนรู้เพื่อความอยู่รอด นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ล้วนคือคนที่เคยเจอสถานการณ์ล้มเหลวสิ้นหวังมาหมดแล้วทั้งสิ้น เขาเข้าใจความกลัว, ความเสี่ยง และความล้มเหลว ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่คุณต้องเอาชนะมาให้ได้จากกระบวนการเรียนรู้ ปัญหาของคนเหล่านี้ คือ อ่อนเพลียกับความกลัวที่ตนสร้างมาเองมากเกินไป
นักประดิษฐ์ผู้มีพรสวรรค์ต้องทำงานเป็นเวลาหลายปี เพื่อสร้างสรรสินค้าผ่านการวิจัยหลายครั้ง จนแน่ใจว่า สมบูรณ์แบบที่สุด จึงจะนำออกวางจำหน่ายใช้งาน แต่ในปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว ตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การรอคอยความสมบูรณ์แบบ อาจไม่ทันกิน จะอยู่รอดได้อาจจะต้องใช้วิธีวางขายไป ทดสอบตลาดไป ปรับปรุงสินค้าไป เป็นลักษณะนี้มากกว่า ปัญหาของคนเหล่านี้ คือมักจะรอให้พร้อมไปเสียทุกเรื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการทำธุรกิจจริง
หมายถึง เป็นคนใช้ชีวิตธรรมดามากเกินไป ผลกระทบนี้เกิดได้จากนิสัยส่วนตัวและการเรียนรู้ตั้งแต่เด็ก การสั่งสอนแบบป้อนข้าวป้อนน้ำ สั่งแล้วให้ปฎิบัติตาม โดยที่เด็กไม่เคยได้ใช้ระบบความคิดหรือตัดสินใจเอง เมื่อคุณเริ่มต้นวิถีชีวิตของผู้ประกอบการ คุณจะมีลักษณะแบบนั้นไม่ได้เลย เพราะความเป็นไปของธุรกิจขึ้นอยู่กับคุณ ปัญหาของคนเหล่านี้ คือ ไม่มีความคิดใหม่ ๆ ไม่กล้าเป็นผู้นำ และไม่กล้าตัดสินใจ
เห็นไหม ? ว่า คำว่า ‘นายจ้าง’ และ ‘ลูกจ้าง’ สะกดคำไม่ต่างกันมากนัก แต่รายละเอียด นิยามและความหมายนั้น แตกต่างกันแบบสุดขั้ว โดยแอดฯ เชื่อว่า อาชีพลูกจ้าง หรือพนักงานเป็นสิ่งที่ดี สามารถสร้างความมั่นคงในตำแหน่ง หน้าที่การงาน สวัสดิการต่าง ๆ โบนัส เงินคอมมิชชั่นมาเต็ม ! ซึ่งใครที่อยากเติบโตในองค์กรหรือเส้นทาง สายงานแบบนี้ ไม่ผิดอะไร และขอให้คุณมีวินัยในการทำงาน เดินตามเป้าหมาย สร้างความมั่นให้ได้ และไปให้ถึงหลักชัยของคุณให้ได้