ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี หากธุรกิจของคุณ ส่ออาการหนัก คุณจะรู้ว่า เริ่มแย่ หรือควรจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง จะไปต่อ..หรือพอแค่นี้ ? ซึ่งอาการเหล่านี้ มักจะส่งสัญญาณเตือนมาเป็นระยะ ๆ ซึ่งคุณเองจะรู้ดีที่สุด
ในช่วงแรกเมื่อคุณเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ สินค้าอาจเป็นที่น่าจับตามอง น่าสนใจสำหรับคนทั่วไป ทำให้มียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าวันหนึ่งคุณสังเกตเห็นความผิดปกติ ลูกค้าไม่ค่อยสั่งซื้อ หรือลูกค้าใช้เวลานานกว่าจะสั่งซื้ออีกครั้ง นั่นหมายความว่า ถ้าคุณไม่พัฒนาสินค้าเรื่อย ๆ คำสั่งซื้อจะหายไปแน่นอน
ถ้าอยู่ดี ๆ ตลาดที่คุณกำลังโลดแล่นอยู่ค่อย ๆ แคบลง จากเคยผลิตสินค้า 1,000 ชิ้น เหลือ 500 ชิ้นต่อเดือน นั่นแสดงให้เห็นว่า ความต้องการของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปแล้ว ถ้าคุณต้องการที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน คุณต้องสังเกตให้ได้ว่า ตลาดกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางใด และคุณจะพัฒนาสินค้าอย่างไร ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงนี้ หรืออาจจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านราคาเพื่อแข่งขันกับผู้ค้ารายอื่น
หรือถ้ามากไปกว่านั้น เมื่อคุณพบว่าตลาดมีความต้องการลดลงอย่างต่อเนื่อง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณต้องย้ายตัวเองไปสู่ตลาดใหม่ หรือฉีกแนวสินค้าเดิมที่มีอยู่ให้ได้
บางครั้งปัญหาอาจไม่ได้เกิดจากตัวสินค้า แต่เกิดจากตัวคุณเอง ซึ่งปัจจัยในการทำธุรกิจนั้นก็ขึ้นอยู่กับการบริหารคน การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ด้วย และในกระบวนการเหล่านี้ก็ใช้เวลาไม่น้อย ถ้าคุณต้องให้เวลากับงานประจำ ควบคู่กับการทำธุรกิจส่วนตัว คุณอาจพบว่า มีคู่แข่งหน้าใหม่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด และยังนำเสนอสินค้าที่ดีกว่าคุณอีกด้วย คุณต้องชั่งน้ำหนักให้ได้ว่าสิ่งไหนที่สำคัญที่สุด และจงเลือกทำสิ่งนั้นต่อไป
ในช่วงแรกถ้าคุณต้องการทดลองตลาด และยังไม่ได้ต้องการกำไรจากการจำหน่ายสินค้ามากนัก ในกรณีนี้คุณไม่จำเป็นต้องวางแผนระยะยาว แค่ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค ปรับปรุง เรียนรู้การทำงานในรูปแบบต่าง ๆ หรือการค้นหาตัวเอง
แต่ถ้าวันที่คุณต้องการกำไรมาถึง แต่คุณกลับไม่มีแผนระยะสั้น-ยาวรองรับเลย รอแต่เวลาและโอกาสเท่านั้น ความสำเร็จก็จะยิ่งไปไกลมากขึ้น ถ้าคุณไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง
หากคุณกำลังมองหาความตื่นเต้นในการทำธุรกิจ แน่นอนว่าในช่วงเริ่มต้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็สนุกไปหมด แต่เมื่อวันที่คุณรู้สึกเบื่อหน่าย มองเห็นแต่ปัญหามากกว่าโอกาส นี่ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่คุณจะหยุดพัก ถ้าคุณไม่หลงใหลการทำธุรกิจอีกต่อไป การหยุดเมื่อรู้ตัว ย่อมดีกว่าต้องหยุดเมื่อล้มเหลวไปแล้ว