กรมสุขภาพจิต แนะ เทคนิคให้ลูกอยากไปโรงเรียนรับเปิดเทอม


 นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้ให้ข้อแนะนำสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกเล็กๆ ว่า ช่วงเปิดเทอมใหม่ เป็นช่วงเวลาที่เด็กๆและ
พ่อแม่ผู้ปกครองต้องปรับตัวกันอีกครั้ง หลังการปิดเทอมใหญ่ที่หยุดยาวติดต่อกันมาหลายเดือน ซึ่งมักพบว่ายังมีเด็กๆ ส่วนหนึ่งที่ไม่อยากไปโรงเรียน 
เกิดความทุกข์ใจ หงุดหงิด บางคนไม่เคยไปโรงเรียน พอต้องไปก็เกิดความกลัว พ่อแม่ผู้ปกครองก็พลอยเครียดไปด้วย 
          อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้แนะเทคนิคให้ลูกอยากไปโรงเรียน ดังนี้ 
          1.ไม่หนีลูก เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง 
          2.เมื่อพ่อแม่ต้องไปจริงๆ ก็ขอให้กอดและหอมแก้มพร้อมบอกกับลูกว่าจะกลับมารับ 
          3.พูดให้ลูกสบายใจ เช่น “รักลูกนะ สัญญาจะมารับตอนบ่าย” 
          4.หากพบว่าบางครั้งลูกร้องไห้กอดแขนขาเราแบบไม่อยากให้เราไปไหน ต้องกลับมาดูว่า เป็นเพราะปัญหาที่บ้าน หรือเพราะปัญหาที่โรงเรียน ซึ่งต้องปรึกษาหารือกับครู 
          5.ถ้าลูกร้องติดต่อยาวนานกว่า 2 อาทิตย์ ต้องหาสาเหตุโดยด่วน ทั้งครู และที่บ้าน ถ้าพยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล ให้พาไปพบแพทย์
 
          อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า แต่ละช่วงวัยปัญหาการไม่อยากไปโรงเรียนจะมีความแตกต่างกัน เด็กเล็กจะเป็นเรื่องของการพลัดพราก ส่วนกลุ่มเด็กโต ที่กำลังศึกษาในชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา ไม่ได้เกิดจากการต้องห่างไกลจากพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่อาจเกิดจากความบกพร่องทางการเรียนรู้ เรียนไม่รู้เรื่อง มีปัญหาการอ่าน การเขียน การคำนวณ สมาธิสั้น ฯลฯ ซึ่งทำให้ท้อแท้หมดกำลังใจจะเรียนหนังสือต่อ อย่างไรก็ตาม หากค้นพบว่าปัญหาการเรียนของลูกคือสิ่งใดและสามารถให้การช่วยเหลือแก้ไขแต่เนิ่นๆ สิ่งเหล่านั้นก็จะดีขึ้นทำให้เด็กสามารถปรับตัวดีขึ้น มีความสุขกับการไปโรงเรียน
          ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรมีความเข้าใจ โดยเฉพาะการพัฒนาการตามวัย ซึ่งธรรมชาติของเด็กแต่ละช่วงวัยมีอารมณ์และความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างเด็กเล็กๆ จะซึมซับบทบาทของพ่อแม่ เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่ผู้ปกครองมักมีความกังวลถึงการร้องไห้งอแง ไม่อยากไปโรงเรียนซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ ที่เด็กวัยนี้มีความกังวลกับการที่ต้องห่างจากพ่อแม่ แต่เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งก็จะเรียนรู้ปรับตัวปรับใจ ส่วนการเรียนรู้ของกลุ่มวัยรุ่น จุดหลัก เป็นการค้นหาเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของตนเองว่าอยากจะเป็นอะไร ชอบอะไรซึ่งเกราะที่จะช่วยป้องกันสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพวกเขา คือ ต้องช่วยให้เขาค้นพบความสามารถ ความชอบของตนเองเพื่อให้เขาเกิดแรงจูงใจอยากจะทำสิ่งนั้นให้ดี โดยพ่อแม่อาจจะเป็นพี่เลี้ยงอยู่ข้าง ๆ เป็นผู้ช่วยดูแลแนะนำการเรียนให้ค้นเจอความชอบของตนเอง เป็นการต่อยอดเตรียมตัวสู่ระดับมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดความเครียดจากการสอบ ระบายความรู้สึกที่กดดันไม่ทำให้รู้สึกว่าอยู่คนเดียว ซึ่งเมื่อไหร่ที่เขามีความทุกข์ก็จะรู้สึกว่าไม่ได้ทุกข์อยู่คนเดียว” 
 
ขอบคุณรูปจาก http://nongpangcake.diaryclub.com/