สีน้ำมูกบอกสุขภาพของท่านได้


       
         สีของน้ำมูก หรือเสมหะนี้ สามารถบ่งบอกถึงโรค หรือภาวะสุขภาพของคุณได้ วันนี้แอดมินนำบทความดี ๆ จาก รศ. นพ. ปารยะ   อาศนะเสน สาขาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้  ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มาฝากเพื่อน ๆให้ลองสังเกตุน้ำมูกของคุณ เพราะสีของมันบ่งบอกสุขภาพคุณได้
          1. สีใส น้ำมูกหรือเสมหะที่ใส มักประกอบด้วยน้ำ, แอนติบอดีที่ต่อต้านเชื้อโรค, เกลือ และโปรตีน  ส่วนใหญ่มักจะไหลลงคอ และเรามักจะกลืนลงไปในกระเพาะ ซึ่งสาเหตุเกิดจาก หวัด (เยื่อบุจมูกอักเสบ) หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรืออาจเกิดจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้  ไวรัสมากระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก ทำให้มีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมา หรือไหลลงคอได้  สารก่อภูมิแพ้ก็เช่นเดียวกัน สามารถกระตุ้นเยื่อบุจมูกของผู้ป่วยที่เป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ทำให้มีการหลั่งของฮิสทามีน (histamine) ออกมา ซึ่งฮิสทามีนสามารถกระตุ้นต่อมสร้างน้ำมูกในเยื่อบุจมูกให้ผลิตน้ำมูกใสๆออกมาได้  การให้ยาต้านฮิสทามีน และการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือสามารถบรรเทาอาการน้ำมูกที่ไหลออกมา หรือไหลลงคอได้
            2. สีขาว การที่น้ำมูกไหลออกมามีลักษณะหนา เหนียว และขาวขุ่น อาจเนื่องมาจาก การที่น้ำมูกถูกขังอยู่ในโพรงจมูกเป็นระยะเวลานาน จากเยื่อบุจมูกที่บวม นอกจากนั้นการที่เรารับประทานผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับนมมากเกินไป อาจทำให้น้ำมูกที่ออกมา หรือไหลลงคอ มีสีขาวขุ่นได้ เนื่องจากไขมันในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม สามารถทำให้น้ำมูกสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้น้ำมูก หรือเสมหะมีลักษณะหนาและเหนียว และมีสีขาวขุ่นตามมาได้
            3. สีเหลือง ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียในโพรงจมูกหรือไซนัส ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา จะส่งเซลล์ที่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว ออกมาทำลายเชื้อแบคทีเรีย ทั้งเซลล์เม็ดเลือดขาว และเชื้อแบคทีเรียที่ตายแล้ว รวมทั้งเมือกและหนองต่างๆ จะรวมตัวกัน ทำให้น้ำมูกมีสีเหลืองได้  นอกจากนั้นการที่น้ำมูกค้างอยู่ในโพรงจมูกเป็นระยะเวลานานมากๆ เช่น ทั้งช่วงกลางคืน อาจทำให้น้ำมูกมีสีเหลืองได้ เวลาตื่นมาตอนเช้า โดยที่ไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียก็ได้ แต่ในกรณีนี้ น้ำมูกมักจะมีสีเหลือง เวลาตื่นนอนตอนเช้า แต่ในช่วงเวลาอื่นของวัน น้ำมูกจะมีสีใส
            4. สีเทา น้ำมูกที่มีสีเทา อาจบ่งบอกว่าในจมูกของคุณมีริดสีดวงจมูก (nasal polyp)  ริดสีดวงจมูกเกิดจากเยื่อบุจมูกหรือไซนัสที่บวมออกมาเป็นก้อนในโพรงจมูก หรือไซนัส ซึ่งไม่ใช่เนื้องอกร้ายแต่อย่างใด มักเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุจมูก ซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้, โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง, โรคหืด หรือภาวะแพ้ยาแอสไพริน โรคไซนัสอักเสบจากเชื้อรา สามารถทำให้น้ำมูกหรือเสมหะมีสีเทาได้ ซึ่งมักเกิดจากสปอร์ของเชื้อรามาเกาะที่ผิวเยื่อบุจมูก และเจริญเติบโตมากขึ้น  มักมีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บของเยื่อบุจมูกเรื้อรัง หรือภูมิต้านทานของร่างกายลดน้อยลง
            5. สีเขียว แสดงถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย กำลังทำงานต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เหมือนกับการที่น้ำมูกมีสีเหลือง  สีเขียวเกิดจากเอนไซม์ ซึ่งสร้างโดยเม็ดเลือดขาว น้ำมูกที่มีสีเขียว มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียภายในโพรงจมูกหรือไซนัส (ไซนัสอักเสบ)
            6. สีแดง มักเกิดจากมีเส้นเลือดในโพรงจมูกแตก แล้วปนมากับน้ำมูก ซึ่งเส้นเลือดที่แตก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การระคายเคือง หรือบาดเจ็บบริเวณจมูก, การอักเสบในโพรงจมูก, เนื้องอก, โรคของหลอดเลือดชนิดต่างๆ หรือแม้แต่การที่เยื่อบุจมูกแห้ง ทำให้เส้นเลือดในเยื่อบุโพรงจมูกอยู่ชิดกับผิวมากขึ้น ทำให้มีการแตกของเส้นเลือดได้ง่าย ซึ่งในกรณีที่น้ำมูกมีสีแดง โดยเฉพาะออกจากจมูกเพียงข้างใดข้างหนึ่ง ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด  สาเหตุของจมูกแห้ง ได้แก่ ดื่มน้ำน้อย, อยู่ในห้องแอร์ ซึ่งมักจะทำให้เราต้องสัมผัสกับอากาศที่เย็นและแห้งเป็นประจำ หรือเปิดพัดลมเป่าจ่อที่หน้า หรือจมูกเป็นระยะเวลานาน หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีอากาศเย็นหรือหนาวจัด อาจต้องพ่นน้ำเกลือเข้าในโพรงจมูกบ่อยๆ หรือใช้เครื่องปรับอากาศให้อุ่นและชื้นขึ้น (humidifier)
            7. สีดำ การที่น้ำมูกมีสีดำ มักพบในผู้ที่สูบบุหรี่หรือสูดยานัตถ์, ใช้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย หรือผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลภาวะทางอากาศมาก หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อราของโพรงจมูกหรือไซนัส
 
ดังนั้นก่อนที่จะสั่งน้ำมูกทิ้ง ให้ลองสังเกตสีของมันสักนิด  อย่างน้อยก็สามารถสะท้อนสุขภาพเบื้องต้นของคุณได้ 
 
ขอบคุณรูปจาก http://www.thaihealth.or.th/