ปัจจุบันมีน้ำมันสำหรับปรุงอาหารหลากหลายประเภท ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง ควรเลือกใช้ให้ถูกประเภทเพื่ออาหารที่อร่อยและสุขภาพที่ดีของตัวท่านเองด้วย
ในอดีตนั้นน้ำมันปาล์มอยู่ใต้ภาพลักษณ์ที่น่ากังวล เพราะความเป็นไขหลังจากสัมผัสกับความเย็น จึงส่งผลให้ผู้บริโภคนิยมรับประทานน้ำมันถั่วเหลืองมากกว่า
แต่ในความเป็นจริงแล้วความเป็นไขของน้ำมันปาล์มไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแต่อย่างใด เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายคนปกติประมาณ 37 องศาเซลเซียส สูงกว่าระดับอุณหภูมิที่ทำให้น้ำมันปาล์มเกิดไขได้ และที่สำคัญคือ การสกัดหรือกลั่นน้ำมันปาล์มจะทำให้ได้น้ำมันปาล์มโอเลอีนที่มีกรดโอเลอิก ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก
แม้น้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลืองจะมีคุณสมบัติและสรรพคุุณใกล้เคียงกัน แต่ควรพิจารณาใช้ให้เหมาะกับการประกอบอาหารร่วมด้วย เพื่อเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยและได้คุณค่าทางโภชนาการ
-หากต้องการทอดอาหาร ควรเลือกใช้น้ำมันปาล์ม เพราะมีคุณสมบัติทนความร้อนได้สูงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง จึงไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ช่วยให้อาหารที่ทอดกรอบอร่อย และไม่อมน้ำมัน
-หากต้องการผัด ควรเลือกใช้น้ำมันถั่วเหลือง เพราะไม่ต้องใช้ความร้อนสูงและเวลาปรุงนาน น้ำมันจึงยังไม่แตกตัวทำปฏิกิริยากับออกซิเจน
จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมครัวเรือนไทยส่วนใหญ่ต้องมีทั้งน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง นั่นก็เพื่อประโยชน์ในการประกอบอาหารและผลลัพธ์ความอร่อยที่แตกต่างกันนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลดี ๆจากน้ำมันพืชคำ