รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
คอนแทคเลนส์กลายเป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นในปัจจุบัน เพราะคอนแทคเลนส์ไม่ใช่แค่ใส่เพื่อปรับสุขภาพสายตาเท่านั้นแต่ยังเสริมในเรื่องความสวยงามอีกด้วย แต่การใช้คอนแทคเลนส์ต้องดูแลรักษาในเรื่องความสะอาดเป็นอย่างดี เพราะหากดูแลไม่ดีอาจมีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นอย่าง อะแคนทะมีบา เข้ามาทำอันตรายดวงตาส่งผลให้ตาบอดได้
เชื้ออะแคนทะมีบา สามารถทนทานอยู่ได้นานในสิ่งแวดล้อมทุกรูปแบบ เช่น หนาวจัด ร้อนจัด แห้งแล้ง ขาดอาหาร และในสระว่ายน้ำที่ใส่คลอรีน หรือแม้แต่บ่อน้ำร้อน ส่วนใหญ่ร้อยละ70 ในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ พบว่ามีกระจกตาอักเสบ เนื่องจากติดเชื้ออะแคนทะมีบาก่อให้เกิดอาการ ดังนี้ ปวดตามาก สู้แสงไม่ได้ กระจกตาขุ่น ฝ้า เป็นแผลอักเสบที่กระจกตา ในบางรายดูคล้ายอักเสบเหมือนติดเชื้อไวรัสเริม
เมื่อมีอาการหรือพฤติกรรมต่อไปนี้…อย่าใส่คอนแทคเลนส์
1. เปลือกตาอักเสบ
2. ตาแห้ง
3. เป็นโรคภูมิแพ้
4. ไม่มีเวลาดูแลล้างทำความสะอาดคอนแทคเลนส์
ทำอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ
1. ล้างมือทำความสะอาดโดยการฟอกสบู่หลายๆ ครั้ง ก่อนหยิบจับคอนแทคเลนส์
2. น้ำยาทำความสะอาดล้างเลนส์ ควรใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน ไม่เก่าเก็บเกิน 2 เดือนหลังจากเปิดใช้แล้ว
3. ขัดถูล้างเลนส์ทั้ง 2 ด้านเป็นเวลาพอสมควร ตลอดจนล้างขัดถูตลับแช่เลนส์ให้สะอาดทุกครั้งก่อนใส่น้ำยาแช่เลนส์ที่เปลี่ยนใหม่ทุกวัน เพราะโรคนี้มักพบในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มบ่อยกว่าชนิดแข็ง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ล้างทำความสะอาดเลนส์ทุกวันหรือใส่นอน
4. ควรนำตลับแช่เลนส์อบไมโครเวฟทุก 2-3 สัปดาห์ และเปลี่ยนตลับใหม่ทุก 2-3 เดือน เนื่องจากเชื้อโรคนี้อยู่ทนทาน
ดังนั้น ผู้ที่ปฏิบัติตัวไม่ถูกวิธี มีสิทธิ์ติดเชื้อจนตาบอดได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ตามแฟชั่น ยิ่งต้องควรระมัดระวังมากกว่าปกติ เพราะหากดูแลดวงตาและรักษาคอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี อาจมีเชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย หรือแค่ฝุ่นละอองปลิวเข้าตา ก็อาจพาเชื้อโรคเข้าไปได้ด้วยเหมือนกัน สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดล้างเลนส์ ขอแนะนำให้ใส่ชนิดรายวันแล้วทิ้ง หรือเปลี่ยนเป็นใส่แว่นตาจะปลอดภัยกว่า
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก ศ.พญ.พนิดา โกสียรักษ์วงศ์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล