จากภูมิปัญญาสู่เวทีโลก เส้นทางอุตสาหกรรม Health-Wellness ไทย สู่เบอร์หนึ่งในใจคนทั่วโลก
ท่ามกลางกระแสสุขภาพและเวลเนส (Health-Wellness) ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก ประเทศไทยได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจสปาและเวลเนสระดับสากล ด้วยจุดแข็งด้านภูมิปัญญาไทยและมาตรฐานการบริการที่โดดเด่น ศักยภาพสปาไทยในตลาดโลก: มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ นางสาวชวนัสถ์ สินธุเขียว ประธานสมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการสปาและเวลเนส เผยถึงความสำเร็จของธุรกิจสปาไทยในเวทีโลก พร้อมชี้ให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตในตลาดที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ นางสาวชวนัสถ์ สินธุเขียว ประธานสมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย “ความโดดเด่นของสปาไทยอยู่ที่การผสานศาสตร์การนวดไทยเข้ากับแนวคิดเวลเนสระดับสากลได้อย่างลงตัว การทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและกระทรวงสาธารณสุขในการพัฒนามาตรฐาน ทำให้สปาไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ” แนวโน้มและการเติบโตของสปาไทยในตลาดต่างประเทศ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สปาไทยได้รับความนิยมสูงในตลาดสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป อย่างประเทศฝรั่งเศสและกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ที่นิยมศาสตร์การนวดแบบไทยเพื่อการบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะดูไบและประเทศในกลุ่ม GCC ต่างให้ความสนใจเปิดธุรกิจสปาไทยในโรงแรมและรีสอร์ตระดับหรู ส่วนในเอเชีย ประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน มีความต้องการเทอราปีสไทยสูงมาก เนื่องจากชื่นชอบเทคนิคการนวดที่เป็นเอกลักษณ์และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีคุณภาพ การปรับตัวสู่เทรนด์ Medical Spa และ Wellness Retreat ธุรกิจสปาไทยได้พัฒนาก้าวไกลกว่าการให้บริการนวดเพื่อผ่อนคลาย โดยมุ่งสู่การเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม มีการผสมผสานการแพทย์แผนไทยกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่การตรวจสุขภาพเบื้องต้นก่อนรับบริการ การจัดโปรแกรมโภชนาการเฉพาะบุคคล ไปจนถึงการดูแลสุขภาพจิตผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำสมาธิ โยคะ และการบำบัดด้วยกลิ่น นอกจากนี้ […]



เดือนสิบมาให้เห็นหน้าบ้าง เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินคำนี้จากคนแก่ๆ แถวบ้านกัน โดยเฉพาะคนใต้ นั้นหมายถึงว่า เวลางานเดือนสิบหรืองานชิงเปรตคนแก่ๆ ก็อยากให้ลูกหลานที่ไปทำงาน มีครอบครัวอยู่ไกลๆ ได้หลบเริน (กลับบ้าน) มาเยี่ยมพ่อแม่และทำบุญให้บรรพบุรุษ
ซึ่งลูกๆ หลานๆ ที่อยู่ไกลจะมารวมตัวกันในประเพณีบุญสารทเดือนสิบ ซึ่งมีความหมายสำคัญคือ เป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ กับ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้อง ผู้ล่วงลับไปแล้ว และเป็นการทำบุญทั้งสองครั้งเป็นการทำบุญที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้วโดยอุทิศส่วนกุศลไปให้วิญญาณของบรรพบุรุษที่ตกอยู่ในเปรตภูมิเป็นคติของศาสนาพราหมณ์ที่ผสมในประเพณีของพุทธศาสนา
วันนี้ Smart SME จะพามารู้จัก ขนมเดือนสิบที่นิยมนำมาทำบุญโดยเฉพาะที่ใช้ในโอกาสทำบุญเดือนสิบซึ่งมี 5 อย่าง แต่ละอย่างจะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป เช่น ขนมลา เป็นสัญลักษณ์แทนเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์แทนแพ สำหรับญาติผู้ล่วงลับใช้เดินทาง ขนมไข่ปลา เป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องประดับ ขนมเจาะหู เป็นสัญลักษณ์แทนเงินสำหรับใช้จ่าย ขนมบ้า เป็นสัญลักษณ์แทนสะบ้า สำหรับใช้เล่นสะบ้าในวันสงกรานต์
ปีนี้ บุญแรก จะตรงกับ วันแรม 1 ค่ำ เดือนสิบ (25 ก.ย. 61) เรียกว่า วันรับตา – ยาย และวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ (9 ต.ค. 61) เป็น วันส่ง ตา-ยาย รวมเวลาที่ตา-ยาย อยู่กับลูกหลานในโลกมนุษย์ 15 วัน เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบุพการีผู้ล่วงลับไปแล้วโดยอุทิศส่วนกุศลที่ได้ทำจะส่งผลกับตัวเราในสิ่งที่ดี ทั้งการงาน หน้าที่ การเงินและครอบครัว
