เหตุผลอันลึกซึ้ง ที่องค์กรทั้งหลายควรเลือกจ้าง “คนหน้าตาดี”


ใบหน้าของเรานั้น หากมองดีๆ จะเห็นว่าใบหน้าด้านซ้ายและด้านขวาไม่สมดุลกัน เช่น ตาซ้ายอาจเล็กกว่าอีกข้าง จมูกเอนไปด้านใดด้านหนึ่งมากกว่าหรือขอบริมฝีปากทั้งสองด้านไม่ได้รูป ใบหน้าที่มีเสน่ห์ต้องมีความสมดุลของด้านซ้ายและขวา
สิ่งยืนยันว่าใบหน้าที่มีความสมดุลเป็นใบหน้าที่มีเสน่ห์ คือเหล่านางแบบและนักแสดงหญิงที่มีความสมดุลด้านซ้ายขวาบนใบหน้า
เมื่อพูดถึงสมดุลบนใบหน้า เราพบว่าคนที่ใบหน้ายิ่งมีความสมดุลด้านซ้ายและขวาเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นมิตรและมีชีวิตชีวามากเท่านั้น
สรุปก็คือ คนที่ใบหน้ามีเสน่ห์ก็จะมีนิสัยดีด้วย

เรามักได้ยินว่า “คนหน้าตาดีจะนิสัยไม่ดี” แต่นั่นไม่จริงเลย คนยิ่งหน้าตาดี ก็ยิ่งนิสัยดี ส่วนคนที่หน้าตาไม่มีความสมดุล นิสัยก็ไม่ดีไปด้วย

แบร์นฮาร์ด ฟิงค์ (Bernhard Fink) จากมหาวิทยาลัยเวียนนา (University of Vienna) ประเทศออสเตรีย ได้ถ่ายรูปผู้ชาย 50 คน กับผู้หญิง 69 คน แล้วตรวจดูความสมดุลบนใบหน้านั้น โดยพับครึ่งรูปถ่าย หากใบหน้าซ้ายขวาทับซ้อนกันพอดีถือว่าสมดุล หากซ้อนกันไม่พอดีถือว่าไม่สมดุล
นอกจากนี้ฟิงค์ยังให้ทุกคนทำแบบทดสอบที่วัดความเป็นมิตร เขาพบว่า คนที่มีความสมดุลบนใบหน้ามากมีนิสัยที่เป็นมิตร มากกว่า

ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง ยิ่งใบหน้ามีความสมดุลก็ยิ่งมีความสดใสและเป็นมิตร เรียกว่าไม่มีคนนิสัยแย่ในกลุ่มคนหน้าตาดี
คนนิสัยไม่ดี คือคนที่ไม่พอใจอะไรไปเสียหมด และเมื่อเขาไม่พอใจก็แสดงออกมาทางสีหน้า เมื่อแสดงหน้าหงิกงอเรื่อยๆ ริมฝีปากก็ดูไม่ได้รูป ดวงตาด้านซ้ายหรือขวาอาจหรี่ลง ทำให้ความสมดุลหายไป

ส่วนคนนิสัยดีจะพึงพอใจทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องแสดงสีหน้าหงิกงอ ใบหน้าจึงคงความสมดุลเอาไว้ได้
พนักงานฝ่ายบุคคลอาจไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แต่เวลาสัมภาษณ์เพื่อรับคนเข้าทำงาน เขามักเลือก “คนหน้าตาดี” เพราะจากประสบการณ์ทำให้รู้ว่าคนหน้าตาดีมักมีนิสัยดีด้วยนั่นเอง

คนที่มีใบหน้าหงิกงอมักมีนิสัยหงิกงอไปด้วย หากจ้างคนแบบนี้เข้าทำงานจะทำให้บรรยากาศในที่ทำงานแย่ตามไปด้วย ดังนั้นในทางจิตวิทยา “การเลือกคนที่หน้าตา” จึงไม่ใช่เรื่องผิด

ผมเชื่อว่าในการรับสมัครงาน แทนที่จะใช้แบบทดสอบลักษณะนิสัย แค่เลือกคนหน้าตาดีไว้ โอกาสที่จะเจอคนนิสัยแย่ ๆ ก็น้อยมาก
ผมเชื่อว่าคนหน้าตาดีจะมีนิสัยดีด้วย ทุกคนคิดอย่างไรครับ…..

 

จากหนังสือ : อ่านใจคนได้ในเสี้ยววินาที โดย โยชิฮิโตะ ไนโต