“เผาหญ้า ขยะ” โทษหนักสุดจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท


สาเหตุของการเกิดฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเผาหญ้า ขยะ ในที่แจ้งซึ่งเป็นการส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ประชาชนทั่วไปควรรู้ คือเป็นการทำผิดกฎหมาย เสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีได้อีกด้วย

กองปราบปราม ได้นำเสนอความรู้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการเผาหญ้า ขยะ และสิ่งไม่พึงประสงค์ในที่โล่งแจ้งว่า การเผาในที่โล่งแจ้ง เช่น การเผากำจัดขยะมูลฝอย หญ้า หรือสิ่งอันไม่พึงประสงค์ใดๆ มักนิยมใช้วิธีการใช้เชื้อเพลิงจุดเผาเพราะเป็นวิธีที่ได้ผลอย่างรวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายน้อย ซึ่งการกำจัดเศษซากพืชหรือขยะด้วยวิธีนี้ นอกจากจะทำให้เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กแล้ว ยังก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญกับผู้อื่นในบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากกลุ่มควันฝุ่นละอองจากขี้เถ้า และยังอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามได้อีกด้วย ซึ่งการกระทำเหล่านี้มีกฎหมายอัตราโทษไว้ ตามระดับของความร้ายแรงแห่งการกระทำ ดังนี้

การเผาหญ้า หรือขยะ หรือสิ่งอื่นใดในที่ดินของตนเองนั้น ยังไม่รุนแรงถึงขั้นที่อาจจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของบุคคลอื่น เพียงแต่ก่อให้เกิด กลิ่น แสง สี เสียง รังสี ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แก่ผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง ตามกฎหมายกำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งห้ามเป็นหนังสือให้ผู้เจ้าของที่ดินผู้เผาหยุดกระทำการดังกล่าวได้ และยังสามารถกำหนดวิธีการเพื่อป้องกันเหตุรำคาญที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ห้ามมิให้ทำการเผาอีกต่อไป และหากเจ้าของที่ดินผู้เผายังฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ก็จะมีความผิดอาญา โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 25 ,26,28,74 )

แต่หากมีความรุนแรงถึงขั้นที่ “น่าจะ” เป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่น เช่นนี้เจ้าของที่ดินผู้เผาจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ทั้งนี้โดยที่ไม่ต้องเกิดเพลิงไหม้หรือความเสียหายขึ้นจริงๆเลย เพียงแต่น่าจะเกิดก็เป็นความผิดตามมาตรา 220 แล้ว

หากเกิดอันตรายขึ้นแก่ทรัพย์สินหรือบุคคลอื่นจริงๆ ผู้กระทำต้องรับโทษหนักขึ้น ตามมาตรา 218 หรือมาตรา 224 แล้วแต่กรณีซึ่งมีระวางโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ยกเว้นหากทรัพย์สินที่เกิดเพลิงไหม้หรืออาจจะเกิดเพลิงไหม้นั้นมีราคาเล็กน้อย ผู้กระทำก็จะได้รับโทษเบาลงตามมาตรา 223

หากลักษณะการเผาหญ้าหรือขยะหรือสิ่งอื่นใดในที่ดินของตนเองนั้น ผู้กระทำย่อมเล็งเห็นผลได้อยู่แล้วว่า ลักษณะการจุดไฟเผาของตนอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้อย่างแน่นอน เช่น จุดไฟในลักษณะที่ใกล้เคียงกับบ้านหรือทรัพย์สินของคนอื่นอย่างมาก ในช่วงที่ลมแรง เช่นนี้ ผู้กระทำผิดย่อมมีความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217-218 แล้วแต่กรณี ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกขั้นสูงถึงประหารชีวิต

เห็นแบบนี้แล้วสำหรับใครที่จะเผาหญ้า ขยะ ควรคิดให้ดีเสียก่อน เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อสังคมแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย และถูกดำเนินคดีได้อีกด้วย