4 ข้อห้ามทำตอนเช้า เพราะจะทำให้งานทั้งวันของคุณพังแบบไม่รู้ตัว


เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงแต่อย่างใด…

การใช้ชีวิตคนเราให้มีประสิทธิภาพได้ตลอดทั้งวัน ก็ต้องอาศัยการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความถูกต้องสดชื่น ซึ่งถ้าคุณยังคงมัวมีพฤติกรรมด้านลบแบบผิดๆ อยู่ล่ะก็ รับรองว่างานทั้งวันของคุณจะไม่มีประสิทธิภาพแน่ และถ้าเผลอทำสิ่งเหล่านี้ติดต่อกันเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว ก็อาจถึงขั้นส่งผลร้ายทำให้ธุรกิจต้องปิดตัวไปได้เลย ดังนั้นรีบทำความเข้าใจและแก้ไขมันให้เร็วที่สุด

1. อย่าปล่อยให้รถติดทำชีวิตพัง

เพราะเมืองไทยขึ้นชื่อเรื่องรถติดมาก โดยเฉพาะเวลาเร่งรีบก่อนเข้างาน ซึ่งการที่รถติดจะทำให้คุณเสียสุขภาพจิต เกิดความเครียดสะสม และทำให้หงุดหงิดไปได้ตลอดทั้งวัน มีการศึกษาบอกด้วยนะครับว่า การเดินทางที่ใช้เวลานานเกินไปในตอนเช้าจะก่อให้เกิดความเครียดสะสมกระทบความสุขในการใช้ชีวิต และการทำงาน ส่งผลให้ทั้งวันนั้นของคุณจะมีแต่ความหม่นหมองและทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ

เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีคือ ตื่นให้ไว เริ่มต้นวันใหม่ให้เร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติดนี้ดีที่สุด วางแผนให้ดีๆ และมานอนหลับที่ออฟฟิศแบบมีเวลาเหลือ ยังดีกว่ามาสายแล้วเสียงานเสียสุขภาพ

2. เร่งรีบจนลืมดื่มน้ำตอนเช้า

พฤติกรรมเล็กๆ อย่างการขาดน้ำ คุณอาจไม่คาดคิดว่าจะส่งผลเสียกระทบต่อตัวธุรกิจคุณได้ ซึ่งมันเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ คือร่างกายของคุณนั่นเอง การที่คุณตื่นมาและไม่ได้ดื่มน้ำเลยในตอนเช้า และต้องเร่งรีบใช้ชีวิตบนรถเพื่อไปให้ถึงเวลาเข้างานและเริ่มงานทันที จะทำให้ร่างกายคุณขาดน้ำแบบไม่รู้ตัว ซึ่งร่างกายคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 60% ดังนั้นการขาดน้ำก็เหมือนการขาดสมดุลที่จะทำให้ระบบต่างๆ ผิดเพี้ยนไป

นั่นเพราะอาหารจะไม่ถูกส่งไปเลี้ยงร่างกายอย่างที่มันควรจะเป็น รวมถึงระบบขับถ่ายต่างๆ ก็จะทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนี่แหละครับที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพในอนาคต และจะทำให้คุณรู้สึกมึนงง อิดโรย สมองไม่แล่น เพียงเพราะจุดเล็กๆ ที่มองข้ามไปอย่างการไม่ดื่มน้ำในตอนเช้านั่นเอง

3. เลื่อนนาฬิกาปลุกออกไปทำให้ชีวิตพัง

การเลื่อนนาฬิกาปลุกออกไปทุกครั้งที่คุณได้ยินเสียงมันในตอนเช้า จะยิ่งทำให้คุณขี้เกียจและเหน็ดเหนื่อยกับการตื่นนอนมากขึ้นกว่าเดิม นักเชี่ยวชาญด้านการนอนหลับบอกว่า การที่คุณมีพฤติกรรมเลื่อนนาฬิกาปลุกจะทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจมากขึ้นเมื่อต้องตื่นจริงๆ และทำให้วันนั้นทั้งวันคุณจะไม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างที่ควรจะเป็น

ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกของคุณเมื่อไหร่ให้รีบลุกตั้งแต่ครั้งแรก จดจำให้เป็นนิสัย และทำมันทุกวัน ร่างกายคุณจะจำได้เอง เมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกต่อจากนี้ไปก็จะทำให้ร่างกายตื่นตัวพร้อมตื่นนอนแบบไม่สะลึมสะลือ ไม่งัวเงีย และพร้อมสำหรับเช้าวันใหม่อย่างแท้จริง

4. ดื่มกาแฟทันทีหลังตื่นนอน ประหยัดเวลามื้อเช้า

หลายคนในวัยทำงานมักมีพฤติกรรมแบบนี้เหมือนกัน คือตื่นนอนขึ้นมาแล้วกินกาแฟก่อนเลยอย่างแรก 1 แก้ว หรือเลือกกินกาแฟเป็นอาหารเช้าแทนมื้อเช้าของคุณ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันเป็นวิธีการใช้ชีวิตที่ผิดมาก เนื่องจากช่วงเวลา 8-9 โมงเช้าเป็นเวลาที่ร่างกายเราผลิตสารกำจัดความเครียด

ซึ่งกาแฟจะมีผลกระทบต่อสารนี้โดยตรง ทำให้สาร Cortisol ไม่หลั่งออกมามากอย่างที่ควรจะเป็น วันนั้นทั้งวันจากที่จะสดชื่น แจ่มใส จิตใจเบิกบาน ก็กลับกลายเป็นมืดมน นอกจากนี้ การละเลยอาหารเช้าหลังร่างกายไม่ได้ทานอะไรมามากกว่า 10 ชั่วโมง (เพราะนอนหลับ) ก็ยิ่งทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าอ่อนเพลียสะสม จนวันหนึ่งอาจทนไม่ไหวและล้มป่วยได้เลยทีเดียว