รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ผู้บริหารทุกคนต้องมีทักษะของการจัดการ การวางแผน และการมองการณ์ไกล เพื่อเตรียมการสำหรับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแต่การทำงานเท่านั้น แต่การนอนหลับ พักผ่อน และตื่นนอนเองก็เช่นกัน มันต้องอาศัยการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณพักฟื้นได้อย่างเต็มที่ และตื่นมาลุยงานในเช้าวันใหม่อย่างสดชื่น
ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในคนที่ตื่นยาก และมักจะเสียงานช่วงเช้าไปกับการผัดวันประกันพรุ่ง 4 เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณตื่นเช้าขึ้นได้แบบสดใส และไม่รู้สึกเหนื่อยล้าที่จะลุกมาทำงานอีกเลย
1.วางแผนให้รอบคอบ เคลียร์ทุกอย่างตั้งแต่วันก่อนหน้า
การจะพาตัวเองให้ตื่นเช้าได้ นั่นหมายถึงคุณต้องเข้านอนไวก่อน ซึ่งถ้าอยากจะเข้านอนไว ก็ต้องไม่มีเรื่องเครียด และความเครียดส่วนใหญ่ก็จะมาจากการทำงานทั้งสิ้น โดยเฉพาะผู้บริหารอย่างคุณ ย่อมมีสิ่งที่ต้องให้คิดอยู่ตลอดเวลา
จะดีกว่ามั้ย ถ้าคุณสามารถเข้านอนได้อย่างสบายใจ โดยการเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จสิ้นไปตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่จะได้พักผ่อนเต็มที่ และตื่นขึ้นมาได้แบบสดชื่น การเข้านอนด้วยหัวสมองที่ว่างเปล่าไร้ความกังวล จะส่งผลให้คุณหลับลึก และพักฟื้นร่างกาย รวมถึงจิตใจได้อย่างที่ควรจะเป็น
อีกทั้งการที่คุณรับรู้ตัวเองว่าตื่นเช้ามา จะไม่มีงานหนักกองโตมาวางรอคุณอยู่ ก็จะยิ่งช่วยให้สุขภาพจิตใจดี และพร้อมจะเดินออกไปเริ่มงานที่คุณรักอย่างไม่มีบิดพลิ้ว
2.เปิดไฟ ลุกออกมาออกกำลังกาย
ยามเช้าที่หลายคนมักจะสะลึมสะลือ และเสียเวลาอยู่บนเตียงอย่างยาวนาน นั่นเพราะพวกเขาไม่ลุกขึ้นมาทันทีหลังจากรู้สึกตัว แต่จะนอนต่อไปอีกสักพักทั้ง ๆ ที่ตื่นอยู่แบบนั้น ซึ่งนาฬิกาชีวิตของมนุษย์เรานั้น จะปรับตัวไปตามปริมาณความสว่างที่เข้ามา เช่น ถ้าคุณปิดม่านมืดในห้อง ก็จะทำให้คุณง่วง และตื่นสาย งัวเงีย และหัวสมองตื้อไปตลอดทั้งวัน
แต่กลับกัน ถ้าคุณตื่นแล้วลุกมาเปิดม่านรับแสงแดดทันที แสงสว่างตรงนี้ก็จะกระตุ้นให้ร่างกายของคุณตื่นตัว และรู้ว่านี่เป็นเวลาที่จะเริ่มต้นชีวิตในเช้าวันใหม่แล้ว สมองของคุณจะถูกสั่งการโดยอัตโนมัติให้กระตือรือร้น และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ตลอดทังวัน
ที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายเบาๆ ก่อนลุกไปจัดการตัวเอง เพื่อสลัดความง่วงให้หายไป กระตุ้นการทำงานของหัวใจให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมอง กระตุ้นกระบวนการคิดอย่างเต็มที่ และสร้างความกระฉับกระเฉงไปตลอดทั้งวัน
3.เข้านอนไว ให้ร่างกายได้พักผ่อน
ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้บริหารที่ต้องการจะเข้านอนไว เพราะแต่ละวันต้องจัดการปัญหาเรื่องราวต่างๆ อยู่ตลอดเวลา กว่าจะว่างทีก็คงดึก แต่คุณยังสามารถแบ่งตารางเวลาออกมาให้ชัดเจนขึ้นได้ ว่าใน 1 วัน คุณมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง และแบ่งสรรปันส่วนให้ออกมาพอดี เหมาะสมกับช่วงเวลา 24 ชั่วโมง
โดยต้องให้มีเวลาเข้านอน อย่างน้อยๆ 6-8 ชั่วโมง รวมถึงต้องมีเวลาให้ร่างกายของคุณได้คูลดาวน์ สำหรับผ่อนคลายตัวเองก่อนหน้านั้น 30 นาที – 1 ชั่วโมงด้วย เพื่อให้สามารถทำร่างกายให้พร้อมที่สุด
ที่สำคัญพยายามอย่าเล่นโทรศัพท์ก่อนเข้านอน เพราะแสงสีฟ้าจะเข้าไปทำให้สมองถูกสั่งการว่า นี่คือเวลาเช้า และทำให้สมองตื่นตัว นอนหลับยากขึ้น แนะนำให้ทำกิจกรรมเบาๆ เช่น ฟัง Podcast หรือ อ่านหนังสือสักเล่ม แล้วสมองจะง่วงจนคุณอยากหลับไปเองโดยอัตโนมัติ
4.ตั้งรางวัลให้ตัวเองสำหรับเช้าวันใหม่
สุดท้ายแล้วมนุษย์เราอยู่ได้ด้วยกำลังใจ ขับเคลื่อนทุกอย่างด้วยกำลังใจ และจะทำทุกสิ่งให้เป็นจริงได้ก็ด้วยกำลังใจเช่นกัน เพราะฉะนั้นคุณต้องกำหนดรางวัลให้ตัวเองในทุกๆ คืนก่อนนอน ตั้งเป้าหมายไว้ว่าพรุ่งนี้เช้าถ้าคุณเคลียร์งานได้ตามเป้า คุณจะได้อะไรเป็นการตอบแทน
เช่น คุณจะสามารถปิดโทรศัพท์มือถือ 1 วัน เพื่อนอนดูหนังที่ตัวเองอยากดู โดยไม่ห่างจากเรื่องงานไปเลยทั้งคืน หรือตั้งเป้าหมายเล็กๆ อย่างการพาตัวเองไปกินร้านอาหารมื้อโปรด ที่ราคาไม่สมเหตุสมผลก็ยังได้
เพราะรางวัลเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้ จะช่วยให้คุณมีกำลังใจ มีเป้าหมายที่จะตื่นเช้ามาทำงานบริหารจัดการที่แสนยุ่งยากให้สำเร็จ หลักจิตวิทยาง่ายๆ นี้เองที่สามารถเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ในรูปแบบที่ต้องการได้จริงๆ