Post Today-K SME Expo 2014 เปิดกลยุทธ์สินค้าไทยสู่ต่างประเทศ


ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับบริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) จัดงาน Post Today-K SME Expo 2014 ในชื่อว่า Mega Business Matching เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ให้มีโอกาสเจอคู่ค้าชั้นนำระดับประเทศ และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรู้เทคนิคและกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อรองรับการส่งสินค้าออกสู่ต่างประเทศ

 

เจาะตลาดต่างประเทศ สร้างโอกาส สร้างยอดขาย

คุณณัฐพล เดชวิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัมนาธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ล็อกซ์เลย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทล็อกเลย์มีกลุ่มการค้าต่างประเทศอยู่ 5 ประเทศ ได้แก่ จีน กัมพูชา ลาว เวียดนาม พม่า ส่วนในเรื่องของการทำธุรกิจมักมีอุปสรรคเสมอ อย่างบริษัทล็อกซ์เลห์ เองก็เจออุปสรรคเช่นกันเรื่องของการส่งสินค้าออกนอกประเทศไปประเทศจีน มักจะเจอเรื่องของกฎระเบียบ อย่างการนำสินค้าเข้าประเทศจีน ต้องมีการขออย.จากประเทศจีนด้วย ทั้งยังต้องจัดการเอกสารหลายอย่าง หากเราต้องการที่จะขายสินค้าในประเทศนั้น เราจำเป็นต้องเปลี่ยนมาร์เก็ตติ้งตามที่ประเทศเขาต้องการ ดังนั้นการทำงานในต่างประเทศต้องหาพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น ถ้าหากเจอรูปแบบที่ดีก็ดีไป แต่ในทางกลับกับถ้าเจอในรูปแบบที่ไม่ดี เขาอาจโกงเราได้ โดยที่นำสินค้าของเราไปจดทะเบียนกับต่างประเทศเป็นของเขาไปเลย ด้วยเหตุนี้จะเกิดผลเสียกับผู้ประกอบการ ฉะนั้นควรดูให้ดีก่อนที่จะไว้ใจ อีกทั้งการที่จะนำสินค้าออกสู่ต่างประเทศควรศึกษาวัฒนาธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ด้วยว่า ประเทศนั้นเป็นแบบใด ต้องการอะไรมากที่สุด เพื่อจะได้เป็นที่ต้องการทางกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

คุณดิสพงษ์ พรชนกนาถ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของประเทศ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่าการทำธุรกิจ SME เพื่อที่จะเดินออกนอกประเทศไปเพียงลำพังนั้นไม่สามารถทำได้แล้ว เนื่องจากต้องศึกษาการบริโภคของต่างประเทศว่า ประเทศนั้นชอบสินค้าเราหรือไม่ สิ่งที่จำเป็นต้องรู้คือ หากต้องการก้าวขาออกไปนอกประเทศ ซึ่งทางเรามีหน่วยงาน World Business Matching Service ที่จะช่วยผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจไปสู่ต่างประเทศได้ ตอนนี้ธนาคารกสิกรไทยมีสาขาอยู่ที่ ประเทศลาว พม่า จีน ญี่ปุ่น ดังนั้นจึงเป็นช่องทางที่สามารถอาศัยแขนขานี้เชื่อมโยงไปได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางเราไม่ใช่เป็นแค่ที่ปรึกษาให้ได้อย่างเดียว แต่สามารถเจาะตลาดออกสู่ต่างประเทศได้อีกด้วย       

 

เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า เพื่อต่อยอดธุรกิจ

คุณศิริพา เดชสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการ Own Brand บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทแม็คโครมีกลุ่มลูกค้า 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มผู้ประกอบการร้านโชห่วย 2.ผู้ประกอบการร้านค้าที่คอยรับจัดเลี้ยง  ดังนั้นผู้ประกอบการ 2 กลุ่มนี้ มักจะเข้ามาใช้บริการเลือกซื้อสินค้าของแม็คโครบ่อยครั้ง โดยทางบริษัทแม็คโครสำรวจว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักถือกระดาษที่โน้ตรายชื่อสินค้าที่ต้องการเอาไว้ แล้วก็มุ่งมาซื้อสินค้านั้นทันที และส่วนใหญ่เข้ามาเลือกซื้อไม่เกิน 30-40 นาที ต่อครั้ง เพราะรายละเอียดสินค้าที่ผู้ประกอบการต้องการนั้นอยู่ในกระดาษโน้ตแล้ว ส่วนทำอย่างไรเพื่อให้สินค้านั้นเป็นที่ต้องการของลูกค้านั้น ทางเราต้องรู้ใจผู้บริโภคก่อนว่า สินค้าไหนตรงใจกลุ่มไหน รูปแบบใด แพ็กไซด์ขนาดไหน เป็นเรื่องสำคัญ และต้องจับเทรนด์ให้ได้ ซึ่งทางแม็คโครได้ศึกษาว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นร้านค้ามากกว่า ดังนั้นเรื่องของบรรจุภัณฑ์ ทางแม็คโครมีการทำออกมาให้ตรงตามขนาดที่ลูกค้าต้องการอยู่แล้ว และเมื่อเดินเข้ามาซื้อสินค้าไม่ต้องเดินหาสินค้านาน เพราะทางแม็คโครจัดหมวดหมู่ไว้อย่างเป็นระเบียบหาง่ายอยู่แล้ว

คุณสุเกียรติกิตติ ธรรมโชติ รองกรรมการผู้จัดการกิจการบริษัทรัฐสัมพันธ์ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น จำกัด กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าที่ทางเทสโก้ โลตัสเน้นส่วนใหญ่เป็นประชาชนทั่วไป ซึ่งทางเทสโก้ โลตัสตระหนักว่าทำอย่างไรเพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาช็อปปิ้งและสามารถช็อปปิ้งสินค้าเรากลับไปด้วย ทางเทสโก้ โลตัสเลยเพิ่มแคชเชียร์ และทางเดินมากขึ้นเพื่อรับรองจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่ขณะเดียวกับพฤติกรรมผู้บริโภคมี 2 รูปแบบ คือ 1. price เรื่องของราคาสินค้านั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ 2.ลูกค้ามักเลือกความสะดวกสบาย ดังนั้นการวางสินค้าต้องให้ง่ายต่อการหยิบจับมากขึ้น อีกทั้งเรื่องของโปรโมชั่นจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญที่จะดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจสินค้าได้ ส่วนช่องทางการจำหน่ายของทางเทสโก้ โลตัสได้ขยายพื้นที่ออกสู่เว็บไซด์ เพื่อเป็นการเลือกจับจ่ายสินค้าทางออนไลน์ และมีการพัฒนารูปแบบโดยการขยายเป็น เทสโก้ โลตัส เอกซ์ตร้าเป็นต้น ทั้งนี้การทำธุรกิจต้องมีความเข้าใจต่อลูกค้าว่า ลูกค้าที่เราต้องการเป็นแบบไหน จะได้สามารถหาทางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

 

ทำการตลาดอย่างไรให้โดนใจลูกค้า

คุณวรวุฒิ วาริการ ผู้จัดการฝ่ายบริหาร บริษัทเอ็นโซโก จำกัด กล่าวว่า ทำการตลาดเพื่อให้โดนใจลูกค้านั้นต้องมีกลยุทธ์ โดยการเพิ่มความสนุก ความแปลกเข้าไปในแพ็กเก็จเดิม เพิ่มความสะดุดตา เช่น  การบริการห้องเช่า สิ่งที่ต้องทำให้ลูกค้าสนใจที่จะเขามาเช่าห้องของเราก็คือ 1.เพิ่มรูปแบบห้องให้ดูแปลกใหม่ 2.มีราคาโปรโมชั่นให้แก่ลูกค้าได้เลือก หรืออย่างการขายสินค้า ซื้อ 1 เครื่อง แล้วซื้อเครื่องต่อไปลดราคาทันที เป็นต้น แล้วลูกค้าที่เข้ามาซื้อก็จะสนใจและพาเพื่อนมาซื้อเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะต้องการให้ราคาที่ถูกลง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า การปรับรูปแบบเดิมให้เป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้านั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจอีกด้วย

คุณทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำตลาดอย่างไรให้ตรงใจลูกค้านั้น ต้องดูว่าลูกค้าคุณเป็นแบบใด คือใคร และต้องรู้ว่าคุณต้องการสื่อสารอะไรกับลูกค้า ส่วนใหญ่ทางการตลาดปัจจุบันมักเล่นกับอารมณ์คน 3 อารมณ์ คือ 1.ดีใจสุดๆ เช่นจำรางวัล 2.เสียใจสุดๆ ส่วนใหญ่ไทยประกันชีวิตมักนำไปใช้มากกว่า 3.ละโมบสุดๆ สิ่งนี้เป็นกลยุทธ์ที่มักเจอทั่วไปตามสินค้าหรือโฆษณาต่างๆ ที่สามารถเป็นจูงใจลูกค้าได้อย่างดี อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจควรมีสมุดโน้ตไว้จดกรณีต่างๆของการขายสินค้าในแต่ละวัน เพื่อนำมาอ่านถึงรายละเอียดย้อนหลังทั้งหมดในแต่ละกรณี สิ่งนี้จะสามารถนำมาปรับและพัฒนาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น