การเป็นเภสัชกร เปิดร้านขายยาถือเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ว่าหากความฝันนั้นได้เกิดขึ้นจริงอาจจะไม่สนุก และมีความสุขอย่างที่คิดก็ได้ อย่างเช่นในกรณีของร้านใบเฟิร์นเภสัช ที่ร่ายยาวถึงเหตุการณ์ต่างๆ ตลอดระยะเวลา 3 ปีของการเปิดร้าน ซึ่งได้ทิ้งเรื่องราวที่น่าเห็นใจ พร้อมทิ้งข้อคิดดีๆ สำหรับการเปิดร้านยา และผู้บริโภค
พรุ่งนี้ขายยาวันสุดท้าย (ในชีวิต?) ตลอดระยะเวลาการทำงานมา 3 ปี เภสัชรู้สึกว่าความสุขในชีวิตมันลดลงทุกปีเจอเรื่องราวหรือเคสบั่นทอนจิตใจสะสมเรื่อยๆมานานทุกวันมาหลายปี ใครอยากรู้ว่าเคสที่เจอประมาณไหน วันละกี่เคส
บั่นทอนจิตใจขนาดไหน ib ให้ดูได้ค่ะ (ในเฟซบุ๊กส่วนตัวจะระบายกับเพื่อนตลอด)
ก่อนจากกันขอฝากอะไรสั้นๆที่เจอทุกวันในร้านยาเรื่องใกล้ตัวเล็กๆน้อยๆแต่เจอทุกวัน
– ยาแก้อักเสบ ไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อ
– เจ็บคออย่างเดียวไม่ต้องกินยาฆ่าเชื้อ
– เจ็บคอ เจ็บข้างๆคอซ้ายขวา(ต่อมทอนซิล) น้ำมูก/เสมหะ เขียวเหลือง 3 วันอาการไม่ดีขึ้น ส่องคอ คอแดง มีจุดหนอง ค่อยกินยาฆ่าเชื้อ
– ทุกครั้งที่กินยาฆ่าเชื้อต้องกินจนหมด
ดีขึ้นแล้วก็ห้ามหยุด ตอนนี้อาจจะไม่เป็นอะไร
แต่ต่อไปจะดื้อยาในอนาคต
– ยาเลื่อนประจำเดือนกินตามน้ำหนัก
กินก่อนวันที่คิดว่าจะมาหรือวันที่จะทำธุระ 2-3 วัน
ถ้าประจำเดือนมาแล้ว กินไปไม่ได้เกิดประโยชน์
– ยาคุมฉุกเฉิน ห้ามกินเกิน “2 กล่อง/เดือน” ไม่ใช่ 2 กล่อง/ชีวิต เรื่องนี้เข้าใจผิดกันแทบทุกคน แต่ถามว่ากินได้เดือนละ 2 กล่อง แล้วกินบ่อยดีไหม คำตอบคือไม่ดี กินเท่าที่จำเป็น เพราะถ้าวันใดวันนึง อยากมีลูกจริงๆ จะเพิ่มโอกาสท้องนอกมดลูก ถ้าคิดว่าตัวเองจะต้องกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ ให้เปลี่ยนเป็นยาคุมแบบรายเดือน
– ยาโรคเรื้อรัง เบาหวาน หัวใจ ความดัน ห้ามหยุดยาเอง ห้ามปรับขนาดยาเอง
– เกลือแร่ท้องเสียกับเกลือแร่ออกกำลังกาย ไม่เหมือนกัน
– เกลือแร่สำหรับท้องเสีย “ไม่ได้รักษาท้องเสีย”
แต่กินเพื่อชดเชยแร่ธาตุต่างๆที่สูญเสียไป เพื่อที่จะได้ไม่อ่อนเพลีย เป็นลม และห้ามดื่มทีเดียวหมด แต่ใช้วิธีจิบบ่อยๆ (การดื่มทีเดียวหมดจะยิ่งทำให้ท้องเสียเพราะเกลือแร่มีคุณสมบัติดูดน้ำเข้าหาตัว จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนชอบบอกว่า
กินเกลือแร่แล้วไม่เห็นจะดีขึ้นเลย)
– ยาคลายกล้ามเนื้อบางยี่ห้อมีตัวยาพาราผสมอยู่แล้ว
ห้ามกินพาราเพิ่มเข้าไปอีก เพราะโดสพาราจะเกิน ก่อนจะหยิบพารากินเพิ่ม ดูส่วนประกอบของยาคลายกล้ามเนื้อด้วยว่ามีพาราอยู่แล้วหรือยัง
– ไอแห้งกับไอมีเสมหะ ตัวยารักษาคนละตัวกัน
– ยาหยอดตาทุกชนิดเปิดฝาแล้วใช้ได้ 1 เดือน และห้ามใช้ร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด
– ยาที่คนเรียกกันว่ายาล้างไต ไม่ได้รักษาโรคไต
ถ้ารักษาได้จริงโลกนี้จะไม่มีผู้ป่วยโรคไต
– เวลาเจ็บปวดอะไรสักอย่าง ยาแก้อักเสบ เช่น ibuprofen, diclofenac, naproxen,mefenamic acid, piroxicam, celecoxib กินยาแก้อักเสบตัวเดียวชนิดเดียวพอ อาจกินเสริมกับยาคลายกล้ามเนื้อได้ แต่ไม่ควรกินยาแก้อักเสบ 2 ชนิดร่วมกัน เพราะจะยิ่งระคายเคืองกระเพาะ และยิ่งมีผลต่อไต
– ยาแก้อักเสบ ที่เขาพูดกันว่ากัดกระเพาะ ฟังดูแรง แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น แค่กินหลังอาหารทันที เพื่อจะได้ไม่ระคายเคืองกระเพาะ
– ยาทาสเตียรอยด์ ทาบางๆและทาเฉพาะเมื่อมีอาการ
ความแรงสเตียรอยด์มีหลายระดับ ไม่ใช่ว่ามี 1 หลอด สามารถทาได้ทุกส่วนในร่างกาย ถ้าทาหน้าหรือผิวหนังอ่อนๆหรือเด็กเล็กมากๆ ให้ใช้ระดับอ่อนสุด-กลางๆ เท่านั้น ห้ามใช้ระดับแรงๆ
– ยาลดน้ำมูกมีแบบง่วงกับไม่ง่วง
แบบ ง่วง ฤทธิ์แรงกว่า ลดน้ำมูก คัดจมูก ได้หมด แต่ออกฤทธิ์สั้น เลยต้องกินบ่อย เช้า กลางวัน เย็น แบบ ไม่ง่วง ลดน้ำมูกได้ในระดับนึง (คัดจมูกไม่ได้) แต่ออกฤทธิ์ยาว กินแค่วันละครั้ง (ฤทธิ์ยาวแต่อ่อนๆ)ถ้าทั้งน้ำมูกทั้งคัดจมูกมากๆ แต่ทำงาน ขับรถ ใช้เครื่องจักร ที่ง่วงนอนไม่ได้ ให้ใช้วิธี กลางวันกินแบบไม่ง่วง ก่อนนอนกินแบบง่วง หรืออาจเปลี่ยนไปกินยาลดน้ำมูกแบบไม่ง่วง รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เป็นการเอารุ่นเก่าไปพัฒนา ชื่อตัวยาจะขึ้นต้นด้วย Des… Levo… รุ่นใหม่หน่อย ราคาแพงหน่อย แต่ประสิทธิภาพดี
– ยาสตรีทั้งหลาย ไม่ได้มีไว้ทำแท้ง
นอกจากทำแท้งไม่ได้ยังเสี่ยงลูกออกมาพิการเคยมีเด็กวัยรุ่นมาซื้อยาสตรีทุก 30 นาที ซื้อจนเราพอจะเดาออกว่าซื้อไปทำอะไรเราต้องรีบตัดสินใจปิดร้านเพราะกลัวว่าถ้าไม่ขายให้จะโดนทำร้าย
ที่เจอบ่อยๆทุกวันก็จะประมาณนี้ค่า พรุ่งนี้เปิดวันสุดท้าย แวะมาลาเภสัชกันได้น๊าาาส์
หมด passion การเป็นเภสัชกรแล้วค่ะ