เพราะอะไร “เนื้อหมู” ถึงปรับราคาสูง แพงที่สุดในรอบ 10 ปี


ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา “เนื้อหมู” กลายเป็นสินค้าที่มีการปรับราคาขึ้นสูงถึง 170-180 บาท/กิโลกรัม ของราคาบนหน้าเขียง ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี

ด้วยราคาเนื้อหมูที่ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นจึงทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารได้รับผลกระทบจนต้องมีการปรับราคาอาหารขึ้นเพื่อให้สอดรับกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับราคา เช่นเดียวกับประชาชนต้องแบกภาระกับการซื้อ “เนื้อหมู” ตามตลาดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ในเรื่องนี้ กรมการค้าภายใน กระทรวงการณ์พาณิชย์ ชี้แจงว่า การที่สุกรชำแหละเนื้อแดง (สะโพก) มีราคาปรับสูงขึ้น มีสาเหตุมาจากความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนโรงเรียนกลับมาเปิดภาคเรียน ทำให้ร้านอาหารสามารถกลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติ ส่งผลให้ภาวะการค้าเกิดความคล่องตัวระดับหนึ่ง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการบริโภคสุกรสูงเลยทำให้เกิดการส่งออกไปต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

เช่นเดียวกับนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า กรมฯ ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และได้ประสานพาณิชย์จังหวัดให้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาจำหน่ายหน้าฟาร์มและในตลาดสดว่าราคาจำหน่ายอยู่ในราคาที่เหมาะสมหรือไม่

“ตกลงกันไว้ราคาหน้าฟาร์มต้องไม่เกินกิโลกรัม (กก.) ละ 80 บาท เพื่อให้ราคาหมูเนื้อแดงหน้าเขียงไม่เกิน กก.ละ 150-160 บาท ส่วนที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเป็นระยะสั้นๆ เพราะมีความต้องการเพิ่มขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์ เปิดสถานการศึกษา และมีความต้องการจากต่างประเทศ หลังจากเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาด”

อย่างไรก็ตาม หากราคาพุ่งสูงต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ จำเป็นต้องมีการใช้มาตรการอื่น ๆ เข้าไปควบคุมราคาไม่ให้สูงจนเกินไป และต้องเป็นประโยชน์ทั้งฝั่งผู้ขาย และฝั่งของผู้บริโภค