แอปฯแท็กซี่ เพิ่มค่าโดยสาร สตาร์ท 40 บาท เริ่มใช้ พ.ย.นี้ พร้อมยกระดับแท็กซี่ไทย สลัดภาพจำของประชาชนในอดีต

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ได้ลงนามในกฎกระทรวง ว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือแท็กซี่ป้ายดำ จำนวน 5 ฉบับเรียบร้อยแล้ว

ทำให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) มีความพร้อมที่จะเปิดให้ บริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นที่สนใจยื่นขออนุญาติและขอการรับรองจาก ขบ. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป คาดว่า ขบ.จะใช้เวลาในการพิจารณาความถูกต้องภายใน 30 วัน หากผ่านการพิจารณาคาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีการเริ่มเปิดให้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นได้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีแท็กซี่ป้ายดำสนใจเข้าร่วมแอพพลิเคชั่น ประมาณ 1 หมื่นคัน โดยขบ.จะทำการประเมินความพึงพอใจจากประชาชนคู่ขนานกันไปด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น (สตาร์ทมิเตอร์) แท็กซี่ที่เรียกผ่านแอปฯจะอยู่ระหว่าง 40-150 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถว่า เป็นขนาดเล็กขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ ส่วนอัตราค่าโดยสารตามระยะทางหรือค่าโดยสารระยะทางเกินกว่า 2 กิโลเมตรแรก (กม.) คิดกม.ละ 6-16 บาทขึ้นอยู่กับขนาดของรถ ขณะที่อัตราค่าโดยสารขณะรถจอดนิ่ง หรือรถติด คิดอัตราไม่เกิน 2 บาท/นาที โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการเรียกเก็บค่าเรียกรถได้ในอัตราไม่เกิน 20 บาท

แอปพลิเคชั่นดังกล่าวจะมีการจัดระบบการเรียกรถไว้ตามหมวดหมู่โดยจะจัดให้รถแท็กซี่สาธารณะอยู่ในอันดับแรก รองลงคือรถประเภทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยเชื่อว่าจะมีบริษัทผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นที่สนใจยื่นเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจากการเปิดรับฟังความเห็นก่อนหน้านี้ พบว่ามีเจ้าของแอพลิเคชั่นจำนวน 6 บริษัทที่แสดงความสนใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้ ขบ. ขยายการจัดทำแอพพลิเคชั่นไปยังรถจักรยายนต์อีกด้วย

ด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมขนส่งทางบก กล่าวว่า ตามขั้นตอนเจ้าของแอปพลิเคชั่นจะต้องยื่นเรื่องขออนุญาติไปไปยัง ขบ. โดยจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด คือเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท มีสถานที่ประกอบการในไทย มีความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนการได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ให้บริการระบบ GPS ตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก

จากนั้น ขบ จะใช้เวลาในการพิจารณาแอพลิเคชั่นหากเป็นไปตามหลักเกณฑ์จะพิจารณาอนุญาตคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สำหรับอัตราค่าโดยสารจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ตามประเภทของรถ คือ

1.) รถยนต์รับจ้างขนาดเล็ก ระยะทาง 2 กม.แรก 40-45 บาท ระยะทางเกินกว่า 2 กม.ขึ้นไป กม.ละ 6-10 บาท

2.) รถยนต์รับจ้างขนาดกลาง ระยะทาง 2 กม.แรก 45-50 บาท ระยะทางเกินกว่า 2 กม.ขึ้นไป กม.ละ 7-12 บาท

3.) รถยนต์รับจ้างขนาดใหญ่ ระยะทาง2กม.แรก 100-150 บาท ระยะทางเกินกว่า 2 กม.ขึ้นไป กม.ละ 12-16 บาท