รายได้ทางเดียวไม่พอ! ชาวสหรัฐฯ เกินครึ่งเริ่มมองหางานที่สอง หลังเงินเฟ้อพุ่งสูงในรอบ 40 ปี

ตามรายงานการศึกษาของ Qualtrics บริษัทเทคโนโลยี เผยอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงส่งผลให้ชาวอเมริกันเกินครึ่งพิจารณาหาอาชีพที่สอง

การสำรวจครั้งนี้เก็บกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 1,000 คน ที่ทำงานเต็มเวลา พบว่า ร้อยละ 38% มองหางานที่สอง ขณะที่ ร้อยละ 14 มีแผนที่จะมองหางานที่สอง นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันที่ทำงานเกินครึ่งพิจารณาการประกอบอาชีพเพิ่มเพื่อนำมาใช้จ่ายในเรื่องค่าครองชีพ

Dr. Benjamin Granger หัวหน้านักจิตวิทยา Qualtrics กล่าวว่าด้วยงบประมาณที่ตึงตัว คนทำงานกำลังมองหาวิธีรับมือค่าครองชีพที่สูงขึ้นด้วยการหางานใหม่

อีกทั้ง ตามการวิจัยล่าสุดของ MassMutual ชี้ให้เห็นว่าความสนใจ และความเร่งรีบในการหางานสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ในขณะเดียวการเติบโตของค่าจ้างไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้กำลังซื้อของคนทำงานลดลง จึงจำเป็นต้องลดรายจ่ายลง เช่นเดียวกับแผนการลดรายจ่ายในช่วงวันหยุด

ความกดดันทางด้านการเงินส่งผลกระทบต่อคนที่มีลูก โดยผลสำรวจในเดือนสิงหาคม และกันยายน พบว่า 7 ใน 10 ของพ่อแม่วัยทำงานมีรายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ และร้อยละ 47 มองหาอาชีพที่สอง

สำหรับทางเลือก ชาวอเมริกันบางคนกำลังมองหาการทำงานเป็นกะ หรือเป็นชั่วโมงจากนายจ้างมากขึ้น ในขณะที่บางคนบอกว่าพวกเขากำลังมองหางานที่มีเงินเดือนสูงกว่า โดย Qualtrics ตั้งข้อสังเกตว่าสายงานในธุรกิจซอฟต์แวร์ เกือบ 6 ใน 10 ต้องการโอกาสในการทำงานล่วงเวลา หรือกะพิเศษ ขณะที่ 4 ใน 10 มองหางานใหม่ที่ผลตอบแทนสูง

ที่มา: bloomberg, cbsnews