สรนรินทร์ เหล็กแดง บุคคลชลประทาน ผู้ยึดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง


เมื่อพูดถึงงานด้านการเงินและบัญชี หลายท่านหากได้ยินได้ฟังแล้วอาจรู้สึกอยากส่ายหัว เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบเป็นที่ตั้ง โดยบุคคลชลประทานของเราในครั้งนี้เป็นสุภาพสตรีชื่อ “สรนรินทร์ เหล็กแดง” เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน กองการเงินและบัญชี ตลอดระยะในการสัมภาษณ์เธอตอบทุกคำถามอย่างถ่อมตน ตลอดว่าเธอเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของสายงานบริหาร แต่จากการสนทนาชัดเจนในแต่ละภารกิจหน้าที่ที่เธอต้องปฏิบัติในวันนั้น ต้องบอกว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้งานสายอื่นแน่นอน

  • ก่อนจะเข้าสู่รั้วกรมชลประทาน

สรนรินทร์ เหล็กแดง เล่าประวัติในช่วงชีวิตก่อนที่จะเข้ารับราชการที่กรมชลประทานให้ฟังว่า พื้นเพของเธอเป็นคนกรุงเทพฯ จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาดุสิตพณิชยการแรกเริ่มมีประสบการณ์การทำงานบริษัท และลูกจ้างชั่วคราวก่อนจะสอบเข้ารับราชการ บรรจุในตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ 1 กลุ่มตรวจสอบภายใน กรมชลประทาน เมื่อ 20 มกราคม 2540 ขณะนั้นอายุได้ 28 ปี

ต่อมาได้ทำงานควบคู่ไปกับศึกษาจนสำเร็จระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ที่โรงเรียนพาณิชยการบางโพ จังหวะเหมาะกองการเงินและบัญชี กรมชลประทาน เปิดรับเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงานจึงโอนย้ายมา และศึกษาต่อจนจบระดับปริญญาตรี หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตวิชาเอกการบริหารธุรกิจ (แขนงวิชาการบัญชี) สถาบันราชภัฏสวนดุสิต

  • สายเลือดข้าราชการ สัญชาตญาณ ทักษะความชำนาญ คือหัวใจ

ถามถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในงานกองการเงินและบัญชีที่รับผิดชอบอยู่นั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง สรนรินทร์อธิบายว่า ช่วงเช้าหน้าที่หลักของเธอจะอยู่ที่ห้องรับ-จ่ายเงิน คอยตรวจสอบการบันทึกบัญชีต่างๆ ของทั้งภายในและภายนอกกรมชลประทาน เช่น ค่ารักษาพยาบาลค่าเบี้ยเลี้ยง เงินยืมราชการ ค่าหลักประกันสัญญา ซึ่งจะมีการลงบัญชี และรับจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ ชื่อบัญชี และจำนวนเงินสดที่รับจ่ายออกไปนั้นจะต้องถูกต้องและตรงกัน จากนั้นในช่วงบ่ายจะมีหน้าที่ไปตรวจนับเงินสดคงเหลือ พร้อมเซ็นกำกับซองทุกครั้งก่อนนำเงินเข้าคลังยอดเงินสดต่อวันไม่เกิน 100,000 บาท และตรวจสอบการบันทึกปิดบัญชีของแต่ละงานในแต่ละวันให้ถูกต้องตรงกันเป็นการทำงาน routine เช่นนี้ประจำทุกวัน

หลังจากเรียงลำดับงานประจำวันจะพบว่างานที่ต้องบริหารในแต่ละวันของสรนรินทร์นั้นมีจำนวนมาก ซึ่งงานทั้งหมดนั้นจะได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบประกอบกับจะต้องไม่ขาดซึ่งความอดทน ความขยัน และความรับผิดชอบ ด้วยเหตุนี้งานทุกชิ้นที่ถูกส่งผ่านทั้งสองมือของเธอจึงเสร็จได้ตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

“ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า เรามีทีมเวิร์กที่แข็งแกร่งส่วนเรื่องแนวคิดหรือหลักการทำงานนั้นมีคุณพ่อที่อดีตเคยรับราชการทหารเป็นแบบอย่าง เราจึงมีความเป็นข้าราชการอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว ทั้งความอดทน ซื่อสัตย์สุจริต ขยัน และรับผิดชอบ ต้นแบบของเราทั้งหมดจึงถอดแบบมาจากท่าน แต่สำหรับการทำงานด้านตัวเลข เราได้มีการฝึกตนเองให้เป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ หมายความว่าเราต้องมีการตรวจเช็กอยู่ตลอด เพราะตัวเลขอาจผิดพลาดได้ ซึ่งถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าผิด คงต้องบอกว่าอาศัยประสบการณ์และการสังเกต ถ้ารู้สึกว่าสิ่งนี้มันผิดปกติก็ต้องมาตรวจสอบใหม่ ซึ่งประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีของการทำงานจะเป็นตัวบอกเราเอง”

  • เดินตามยุทธศาสตร์กรมชลประทาน RID No.1

เมื่อใดที่เป็นคนในองค์กรที่มุ่งการพัฒนา ก็จะต้องทำทุกวิถีทางที่จะนำพาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าตามไปด้วย และถึงแม้จะเป็นคนตัวเล็กๆ ในองค์กรแต่ก็มองเห็นถึงภาพใหญ่อย่างยุทธศาสตร์ที่ผู้บริหารกรมชลประทานได้วางแนวทาง RID No.1 ไว้ ซึ่งสรนรินทร์ก็ได้เดินตาม เช่น ในข้อที่เกี่ยวกับการดำเนินการพัฒนาองค์กรอย่างเป็นระบบ เธอได้มีการบริหารจัดการความรู้และถ่ายทอดความรู้ที่ได้จากการอบรมหลักสูตรต่างๆ หรือการร่วมกิจกรรม รวมถึงจัดทำคู่มือตามความถนัดและความเชี่ยวชาญ เพื่อเป็นข้อมูลส่วนกลางให้รุ่นน้องในกองการเงินและบัญชีได้นำคู่มือการทำงานของรุ่นพี่ได้เรียนรู้ต่อไป

“เรายังใส่ใจในเรื่องของการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อการพัฒนาองค์กรสู่ RID 4.0 เช่น ระบบ CMIS และระบบอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งทำให้ต้องศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ และพัฒนาตนเองให้ทันยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา”

รางวัลที่ทอแสงประกาย

แม้จะไม่มีผลงานหรือเคยได้รับรางวัลที่ใหญ่โตมาก่อนเพราะในแต่ละวันเธอคิดเพียงทำงานในหน้าที่ปัจจุบันที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด แต่แล้ววันหนึ่งความสามารถความทุ่มเทตั้งใจ ที่แฝงไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริตของเธอก็ทอแสงจุดประกายขึ้นให้คนอื่นได้มองเห็น โดยเมื่อ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา สรนรินทร์ถือเป็นหนึ่งในข้าราชการสายบริหารคนหนึ่งที่ได้รางวัลข้าราชการพลเรือนและลูกจ้างประจำดีเด่น ของกรมชลประทาน ประจำปี 2561 นำมาซึ่งความภาคภูมิใจในตนเองและครอบครัว

“ภาคภูมิใจในตนเองมากที่สามารถยืนอยู่จุดนี้ได้นึกถึงคำที่พ่อสอนกรอกหูว่า ถ้าได้เป็นข้าราชการต้องถือคติว่าซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน อย่าไปคดโกงใครต้องซื่อสัตย์สุจริต ยิ่งมาอยู่จุดนี้ด้วยแล้ว แม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ ในฝ่ายบริหารกองการเงินและบัญชี ต้องนับเงินสดเป็นแสนทุกวัน ถ้าจิตใจมันทุจริตก็คงไม่มีทางมาถึงจุดนี้ได้”

เป้าหมายต่อจากนี้ สรนรินทร์ บอกว่าคงต้องมุ่งมั่นพัฒนางานขึ้นไปอีก เพราะยังเหลือเวลาอีก 10 กว่าปีกว่าจะครบเกษียณอายุราชการ ซึ่งในระหว่าง 10 ปี ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไม่มากก็น้อย พร้อมที่จะเป็นข้าราชการยุคใหม่ที่ไม่หยุดการเรียนรู้ พร้อมที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ที่สำคัญพร้อมที่จะสอนและถ่ายทอดความรู้ที่มีให้น้องรุ่นต่อๆ ไป

สุดท้าย สรนรินทร์ ได้กล่าวฝากไว้ว่า “รางวัลข้าราชการดีเด่นอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับ แต่ทุกคนสามารถเป็นข้าราชการที่ดีได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน งานที่รับผิดชอบนั้นจะยากหรือง่าย จะใหญ่หรือเล็ก ถ้าเราขยันตั้งใจ งานที่ได้รับมอบหมายก็ประสบความสำเร็จ อยากให้มองเห็นความสำคัญของตัวเองก่อน แล้ววันหนึ่งก็จะมีคนอื่นมองเห็นเราในที่สุด”