ยามเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องเมืองบาดาล อ่างเก็บน้ำคลองกะทูนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ


ชลประทานพาไปฉบับนี้จะนำท่านลงใต้ เพื่อทำความรู้จักกับอ่างเก็บน้ำคลองกะทูนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำที่มาจากน้ำพระราชหฤทัยของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยสาเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อ พ.ศ. 2531 ทำความเสียหายให้แก่พื้นที่เพาะปลูก บ้านเรือน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

 

 

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนดังกล่าว จึงได้พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2531 ให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาสภาพพื้นที่บริเวณบ้านกะทูนเหนือ บ้านกะทูนใต้ และพื้นที่เพาะปลูกเพื่อดำเนินการจัดสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะทูน

โครงการอ่างเก็บน้ำคลองกะทูนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ ณ ตำบลกะทูน อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2540 ลักษณะเป็นเขื่อนดินยาว 1,808 เมตร สูง 24 เมตร ความจุที่ระดับน้ำเก็บกักสูงสุด 70.5 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ผ่านเส้นทางหมายเลข 4224 จนถึงจุดหมาย

 

 

ประโยชน์ของโครงการ ช่วยบรรเทาอุทกภัยพื้นที่เพาะปลูกและบ้านเรือนราษฎรสองฝั่งแม่น้ำตาปี บริเวณด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ ร่วมกับอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง นอกจากนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำคลองกะทูนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สามารถนำไปใช้เพื่อการเพาะปลูกสำหรับพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำตาปีได้ไม่น้อยกว่า 12,500 ไร่ เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ และยังเป็นอ่างเก็บน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช

สำหรับประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวนั้น อ่างเก็บน้ำคลองกะทูนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่น่าสนใจไม่แพ้อ่างเก็บน้ำแห่งอื่น ๆ ในประเทศไทย ด้วยลักษณะเด่นของทิวทัศน์บริเวณโดยรอบอ่างเก็บน้ำซึ่งงดงามยิ่งด้วยภูเขาล้อมรอบ ในวันที่อากาศแจ่มใสในช่วงเช้า ทุกคนจะได้ติดตราตรึงใจกับภาพของทะเลหมอก ยิ่งเมื่อในยามที่แสงแดดอ่อน ๆ ถูกสาดส่องมากระทบพื้นน้ำที่สงบนิ่ง ภาพที่เห็นจึงมองคล้ายผืนน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ในยามเย็นบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำจะเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ หนึ่งในความชื่นชอบประทับใจของนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน เป็นการล่องเรือในบริเวณอ่างเก็บน้ำ เพื่อชมทัศนียภาพใต้ผิวน้ำ ซึ่งเมื่อก่อน พ.ศ. 2531 พื้นทีบริเวณก่อสร้างอ่างเก็บน้ำยังปรากฏ ถนนหนทาง วัด โรงเรียน บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย และเรือกสวนไร่นาที่บัดนี้จมอยู่ใต้น้ำและอีกไม่นาน ก็จะผุกร่อนไปตามกาลเวลา เหลือเพียงซากปรักหักพัง ที่จะเป็นแค่คำบอกเล่าถึงอนุสรณ์อันเป็นประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำของคนในพื้นถิ่นเท่านั้น

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่มีต่อชาวกะทูนทุกคน จากความรู้สึกสิ้นหวังแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว บ้านเรือน และพื้นที่ทำมาหากินถูกทำลายจนยากจะฟื้นฟู แต่วันนี้ทุกชีวิตของชาวกะทูนกลับมายิ้มได้อีกครั้ง เพราะไหนจะมีน้ำเพื่อทำนาทำไร่แล้ว มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นผลพวงของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ยังสามารถดึงดูดผู้คนจนเป็นรายได้สำคัญอย่างหนึ่งของชาวกะทูนอีกด้วย