โครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ซีซัน 2 ชวนธุรกิจเพื่อสังคมสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม กับโจทย์ใหม่ที่ท้าท้ายกว่าเดิม


พฤกษา มุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ด้วยการเดินหน้าจัดโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ซีซัน 2 กับโจทย์ใหม่ที่ท้าทาย ขยายวงกว้างในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ให้เงินทุนสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคมขยายธุรกิจ รวมเงินสนับสนุนกว่า 6 ล้านบาท จากพฤกษาและทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ พร้อมรับความรู้ และโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ เปิดรับสมัครถึง 16 ตุลาคมนี้

 

 

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ Accelerate Impact with PRUKSA จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2565 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคมเป็นจำนวนมากในประเด็น การลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ เพื่อช่วยเหลือคนไทยให้มีโอกาสประกอบอาชีพ และ โซลูชั่นเชิงรุกด้านการดูแลผู้สูงวัย เพื่อทำให้ผู้สูงวัยมีจุดมุ่งหมายในชีวิตใหม่ ความสำเร็จของโครงการในปีแรกทำให้ Accelerate Impact with PRUKSA กลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะมีการพัฒนาต่อยอด โดยสนับสนุนเอสเอ็มอี และสตาร์ตอัป ที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม หรือสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคม ที่ครอบคลุมมิติการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม มาพร้อมกับโจทย์ใหม่ที่ท้าทายขึ้น คือ 1) การส่งเสริมสุขภาพกายและใจที่ดี 2) การลดคาร์บอนและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน 3) การลดความเหลื่อมล้ำ และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อโอกาสทางการงาน

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Accelerate Impact with PRUKSA ซีซัน 2 จะต้องพร้อมในการต่อยอดธุรกิจ โดยจะได้รับเงินทุนสนับสนุนรวมกว่า 6 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจจากพฤกษา และยังมีโอกาสได้รับเงินทุนสนับสนุนเพิ่มเติมจาก “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์” ที่สำคัญไปกว่านั้นธุรกิจเพื่อสังคมที่ผ่านการคัดเลือกอาจได้รับการพิจารณาเงินลงทุนจากพฤกษา ภายใต้ Corporate Venture Capital (CVC) ด้วย นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้รับโอกาสที่ดีที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เช่น คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เวิร์กชอปพัฒนาทักษะสำหรับการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม รวมทั้งการเข้าถึงเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาธุรกิจจากพฤกษา สำหรับ 5 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายจะได้ร่วมกิจกรรม Bootcamp เป็นเวลา 2 วัน และร่วมโปรแกรมพัฒนาธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบเป็นเวลา 3 เดือน

 

 

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

• จดทะเบียนนิติบุคคล ดำเนินงานจริง มียอดขาย รายได้ ที่พิสูจน์ว่าสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน
• มีโซลูชั่นเชิงนวัตกรรม เพื่อจัดการแก้ปัญหาสังคมสอดคล้องตามโจทย์ที่กำหนด
• มีแผนธุรกิจ ที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างผลกระทบ และเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น
• มีกรอบในการวัดผล และมีการติดตามตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น อัตราการเติบโตของธุรกิจ เป็นต้น
• มีความเป็นทีม มีประสบการณ์ และมุ่งมั่นที่สร้างธุรกิจที่ยั่งยืนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.pruksaimpact.com ตั้งแต่วันนี้ – 16 ตุลาคม 2566