‘SMARTTERRA’ ตู้เลี้ยงต้นไม้สุดล้ำ ระบบนิเวศอัจฉริยะตอบโจทย์คนเมืองที่อยู่อาศัยในพื้นที่จำกัด


โลกยุคใหม่ ที่กำลังก้าวสู่วิถี Urbanization หรือความเป็นเมือง เติบโตอย่างรวดเร็วเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จนนำมาสู่การขยายตัวของเมือง โดยมีจำนวนประชากรอาศัยในเมืองเพิ่มมากขึ้น หลายคนอดที่จะโหยหาธรรมชาติ เพื่อผ่อนคลายจิตใจจาก ต้นไม้ สายลม และแสงแดด จะดีแค่ไหน หากโลกนี้ มีระบบนิเวศอัจฉริยะตั้งอยู่ในบ้านหรือที่อยู่อาศัยของเรา แถมไม่ต้องคอยรดน้ำ พรวนดิน ก็สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติได้ทุกวัน ทุกเวลา เพียงสั่งการด้วยปลายนิ้วเท่านั้น

 

วันนี้ Bangkok Bank SME ขอพาไปคุยกับ คุณฉัตรพัฒน์ จิรธันยพัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉลาด อินโนเวชั่น จํากัด ผู้สร้างนวัตกรรม ‘SMARTTERRA’ ตู้เลี้ยงต้นไม้สุดล้ำที่มีรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี 2021 เป็นเครื่องการันตี

 

 

‘SMARTTERRA’ ตู้เลี้ยงต้นไม้สุดฉลาด

คุณฉัตรพัฒน์ กล่าวว่า ธุรกิจเราอยู่ในสาย Software มากว่า 20 ปี ทีมงานหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ทำด้านการให้บริการ Software หลังบ้านที่เรียกว่า Document Automation System เกี่ยวกับการเดินเอกสาร Paperless ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มการเงิน ธนาคารต่าง ๆ

จุดเปลี่ยนคือ ความอิ่มตัวของ Software เพราะเทคโนโลยีย่อมมีการปรับเปลี่ยน ในยุคของดิจิทัล IoT เข้ามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ที่ต่างประเทศ เทคโนโลยีไปไกลและเร็วกว่าเรา จึงต้องคิดอะไรใหม่ ๆ ตลอด ประกอบกับ CEO ที่เป็นพาร์ตเนอร์กับเรามีความเป็นนักประดิษฐ์ในตัว ถนัดด้าน Software และ Hardware จึงคิดไอเดียนวัตกรรมอย่างหนึ่งก่อนช่วงจะเกิดโควิด คือ ตู้เลี้ยงต้นไม้ ‘SMARTTERRA’

 

 

เริ่มต้นจากเราเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ในบ้าน ส่วนใหญ่พฤติกรรมของคนที่อยู่เมืองนอก เขาจะนิยมปลูกต้นไม้ในบ้าน ด้วยเรื่องของสภาพอากาศภายนอกที่หนาวเย็น แต่ Pain Point ของการปลูกต้นไม้ในบ้าน คือ การดูแลรักษา ต้องคอยให้น้ำ ให้แสง พอช่วงที่ไม่ได้ดูแล หรือไม่อยู่บ้านนาน ๆ ต้นไม้จะเหี่ยวเฉาและตาย เราจึงเกิดไอเดียคือ เอาตู้ปลาเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาทดลองทำระบบรดน้ำ ให้แสง ทำแผงวงจรขึ้นมาเองเป็นตัว Prototype (ตัวจำลองต้นแบบ) ตัวแรก จากนั้นได้ทดลอง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

 

ด้วยความเป็นนักคิดที่ชอบประดิษฐ์ จึงต่อยอดจากสิ่งที่ทำ จากการออกแบบระบบน้ำ แสง ก็มาเป็น เสียง จำลองธรรมชาติขึ้นมาให้ใกล้เคียงมากที่สุด Develop จนมาถึงตู้สัตว์เลื้อยคลานในบ้าน แต่เปลี่ยนจาก Mood &Tone ที่ดูแล้วแห้งแล้ง เป็นการจำลองธรรมชาติ ใส่ต้นไม้ เพิ่มความรู้สึกร่มรื่นเข้าไปในตู้ หลังจากพัฒนา Prototype ที่ทำงานได้สมบูรณ์แบบ แต่ยังเป็นระบบปุ่มกดบนตู้ ยังไม่มีระบบแอปพลิเคชัน พาร์ตเนอร์กับผมแชร์ไอเดียกันว่า เท่าที่เรารีเสิร์ชมา บนโลกนี้ยังไม่มีใครทำ Product แบบนี้

จึงลองศึกษาดูแนวโน้มของนวัตกรรมลักษณะนี้ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

“เราเห็นว่ามีคนอื่นทำ แต่ยังไม่มีใครเหมือนเรา”

 

 

ศึกษาตลาด วิเคราะห์คู่แข่ง

จากการหาข้อมูล เราพบว่า Product ที่มีคนทำแล้ว เต็มที่จะมีแค่ระบบให้แสง ให้น้ำ ซึ่งเป็นระบบฟ็อกกี้ หรือบางตัวมีแค่แสง แต่ต้องรดน้ำเอง ‘SMARTTERRA’ จะแตกต่าง คือมีองค์ประกอบเหมือนธรรมชาติจริงอยู่ในตู้ มีแสง สี เสียง น้ำ ลม ที่ทำงานประสานกันอย่างลงตัว แบบที่ยังไม่เคยมีใครคิด ฉะนั้นพอเราพัฒนาไปถึงจุดหนึ่ง เราพบว่าสวนตู้ต่าง ๆ ที่มีขายมักจะเกิดปัญหาคือ ตู้มีฝ้าขึ้นจนมองไม่เห็นทัศนียภาพด้านในเพราะละอองน้ำติดอยู่ ซึ่งมาจากความชื้นที่มากไป ทำให้เกิดฝ้า บดบังความสวยงามภายในตู้ แต่ ‘SMARTTERRA’ ตู้จะใสตลอดเวลาเพราะเราออกแบบให้มีลมไล่ความชื้นส่วนเกิน และป้องกันการเกิดเชื้อรากับต้นไม้ หรือแม้แต่บนดิน

 

นอกจากนั้น เรามีเทคนิคสร้างความใสให้ภายในตู้ได้ตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่เราแตกต่างจากตลาด และสิ่งที่ยากที่สุด คือระบบการให้น้ำที่ต้องเหมือนจริงตามธรรมชาติมากที่สุด เราคิดวิธีทำให้ฝนตกในตู้เป็นเม็ด ของเจ้าอื่นอาจจะใช้หมอกทำความชื้น แต่เราทำให้ฝนตกเป็นเม็ด และมีเสียงฝนตก มีฟ้าแลบ ฟ้าร้องได้ ด้วยการพัฒนา Software และ Firmware ภายในตู้ทั้งหมด นอกเหนือจาก Hardware ที่เห็นภายนอกแล้ว เบื้องหลังเป็นการทำงานที่ยากมาก ดูภายนอกอาจจะเหมือนไม่มีอะไร แต่เทคโนโลยี Software และ Firmware ที่จะทำให้แสง สี เสียง น้ำ ลม ทำงานผสมผสานกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เราเคยไปดูงานที่เมืองนอก ได้มีโอกาสแชร์ไอเดียกับคนที่ทำ Product คล้ายเรา เขาชื่นชมว่านวัตกรรมของเราสุดยอดมาก เป็น Product ที่มี Ecosystem สมบูรณ์แบบ

 

ผมเคยลองปลูกผักสลัด ลองเอาเม็ดไปหย่อนและใช้ดินสูตรที่ผสมเอง ก็ทำได้จริง แต่ขนาดตู้ที่เล็กจึงไม่เหมาะ ต้นไม้ที่นิยมปลูกในประเทศเราคือ บอนไซ แต่ต้นที่เราแนะนำให้ปลูก คือไม้พวก Tropical plants (ต้นไม้ที่ชอบน้ำ) หรือกลุ่มต้นไม้ป่าชื้นที่ต้องการน้ำมากหน่อย จะเหมาะกับการเลี้ยง คุณจะรดน้ำบ่อยแค่ไหน ก็กดปุ่มเล่นได้ตลอดเวลา แต่ถ้าปลูกต้นที่ไม่ชอบน้ำอย่าง กระบองเพชร ซึ่งรดน้ำได้เพียงอาทิตย์ละครั้ง ก็จะไม่สนุก

 

นอกจากนี้ คุณยังเลือก Theme ได้ จะมีหลัก ๆ คือกลุ่ม Tropical plants หรือ Desert สามารถเลือกให้เหมาะกับต้นไม้ที่ปลูกได้ เรามีการคำนวณมาแล้วสำหรับ Theme ต่าง ๆ ว่าต้นไม้แบบไหน ต้องตั้งค่าการดูแลแบบไหน คุณตั้งเวลารดน้ำไว้ได้เลย จะทำแบบแมนนวล กดเองก็ได้ หรืออยากจะให้ฝนตกเมื่อไหร่ ก็กดปุ่มได้เลย ขึ้นอยู่กับโหมดที่เลือกใช้

 

 

นวัตกรรมสุดล้ำ สร้าง Relaxation ในบ้าน

Positioning Brand ของบริษัท ฉลาดอินโนเวชั่น Mission ของเราคือใช้เทคโนโลยี สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อมาปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เรียกว่า Well Being พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาสิ่งรอบตัว นอกเหนือจาก ‘SMARTTERRA’ เรายังมีเทคโนโลยีอื่นที่ไม่ได้โฟกัสที่กรีนเทคโนโลยี หรือต้นไม้เพียงอย่างเดียว เรามีนวัตกรรมที่แก้ปัญหา เช่นเรื่องของการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เราทำร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นนวัตกรรมตู้กดเครื่องดื่มที่เหมาะกับความต้องการแต่ละบุคคล แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการทำงาน

 

‘SMARTTERRA’ นอกจากจะมี Software หลัก คือระบบ Water cycle หรือ ระบบน้ำหมุนเวียน ด้านล่างจะมีแท็งก์น้ำ สำหรับให้ฝนที่ตกลงมาไหลกลับมาที่แทงค์ และวนไหลกลับมาใช้ใหม่ ความถี่ของการเติมน้ำจึงทำแค่เดือนละครั้ง สอง เรามีระบบลมหมุนเวียน ทำให้เกิดการระบายภายใน ลมในตู้จะดูดอากาศจากภายนอกเข้าไปทำให้ตู้ใสไม่เกิดฝ้า มองเห็นทัศนียภาพที่เราตกแต่งไว้ภายใน หากตู้มีความชื้นมากเกินไปจะเกิดเชื้อรา เพราะฉะนั้นจึงต้องมีลมที่ไล่ความชื้น รวมทั้งตู้ของเรา จะสร้างออกซิเจนเมื่อนำไปวางภายในบ้านเช่น ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น เป็นเหมือนตัวกรองอากาศขนาดย่อม สร้างความสดชื่น

 

 

องค์ประกอบของเซ็นเซอร์ มี 4 ส่วน คือ อุณหภูมิ ความชื้นในอากาศ ความชื้นในดิน และระดับน้ำในแทงค์ถ้าน้ำใกล้แห้ง จะแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันว่าน้ำใกล้หมดแล้ว ตัวตู้จะมีเสียงพูดว่าน้ำใกล้หมดแล้ว เรามีลำโพงอยู่สองฝั่ง ใต้ตู้เป็นลำโพงเป็นระบบ Speaker Simulator ให้เสียงธรรมชาติ มีให้เลือก 20 เสียง

 

ตู้ของเรามี Ambient Light ด้วย แสงสีต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความสวยงามให้การตกแต่งสิ่งที่อยู่ในตู้เหมาะกับสิ่งที่จัดไว้ จะเปลี่ยนแสงเป็นสีต่าง ๆ ในตู้แบบ Random เป็นสายรุ้ง มีหลากหลายสี ก็ทำได้หมด เป็นการสร้างบรรยากาศในแง่อีโมชันนัล ส่วนแสงสีขาวจะเป็นแอลอีดีที่ใช้สำหรับต้นไม้โดยเฉพาะ มีความเข้มข้นของแสงสีน้ำเงินและสีแดงซ่อน ซึ่งเป็นแสงที่ต้นไม้ต้องการ

 

นอกจากนี้ จะมีเมนบอร์ดอยู่ด้านหลัง ‘SMARTTERRA’ คล้ายกับคอมพิวเตอร์ขนาดย่อม เราดีไซน์เมนบอร์ดและฝังโปรแกรม Firmware ไว้ และเขียนแอปพลิเคชันขึ้นมาเพื่อคุยกับ Firmware ในตู้ วิธีการคือเราใช้เทคโนโลยีบลูทูธในการรับส่งข้อมูลระหว่างตัวแอปฯ กับตู้ ทุกครั้งที่เรา Connect แอปฯ กับตู้จะส่งข้อมูลไปเก็บไว้ และตู้ จะส่งคำสั่งกลับมาที่ตัวแอปพลิเคชัน โยนข้อมูลระหว่างกันไปมา ความยากคือการทำให้ข้อมูลทุกอย่างทำงานได้เหมือนธรรมชาติจริง ๆ

 

นอกเหนือจากบลูทูธ จะมี Wi-Fi ด้วย แต่ค่อนข้างยุ่งยากในการตั้งค่า รวมถึงเพิ่มคอร์ส เพราะผู้ใช้ต้องต่ออินเตอร์เน็ต ตู้ของประเทศแคนาดาจะใช้ Wi-Fi อย่างเดียว แม้จะมีความรวดเร็วกว่า แต่จะไม่เกิดเรื่องความยั่งยืน การออกแบบของเขา ได้ความสวยงาม อลังการ แต่สุดท้ายแล้ว จะไม่ได้ในแง่ Sustainable ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ

 

 

 

กลุ่มเป้าหมาย ‘เจาะไลฟ์สไตล์คนเมือง’

ทาร์เก็ตของเรามีความชัดเจน คือ เป็นบุคคลที่อาศัยในพื้นที่จำกัด ไม่ค่อยมีพื้นที่สีเขียว ถ้าเป็นเมืองนอกจะเป็นกลุ่มคนที่ชอบปลูกต้นไม้ หรือเลี้ยงสัตว์เลี้อยคลาน เช่น เลี้ยงกบตัวเล็ก ๆ หรือแมลงดึกดำบรรพ์ ที่หน้าเว็ปไซต์ เราจะหน้าที่ให้ลูกค้าเข้ามาแชร์รูป ก็จะเห็นถึงความสุข เป็นความสวยงามแบบเฉพาะบุคคล สำหรับลูกค้าในเมืองไทย สิ่งที่เราวางเป้าไว้ คือกลุ่มคนเมืองที่อยู่ตามคอนโด หรืออพาร์ทเมนท์ในพื้นที่จำกัด เราอยากให้นวัตกรรมนี้ ทำให้วิถีชีวิตของเขาดีขึ้น เยียวยาจิตใจ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นแบบสะดวกสบาย และไม่ยุ่งยาก

 

เราจะมีตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทย ที่เขาจะขายอุปกรณ์ตกแต่งสวนไม้น้ำต่าง ๆ เขาก็จะนำผลิตภัณฑ์ของเราไปเพิ่มมูลค่าสินค้าตกแต่งบ้าน คนไทยจะชอบความสำเร็จรูป เสียบปลั๊กใช้งานได้เลย เราเป็นผู้ผลิตที่ขายส่งให้ร้านค้า ให้เขาไป Add-on ตกแต่งเพิ่มเติม แล้วขายเอง ที่ออสเตรเลีย หรืออังกฤษ เขาจะมีร้านที่รับตกแต่งตู้จำลองธรรมชาติโดยเฉพาะด้วย ราคาขายที่เราตั้งไว้เฉพาะตู้เปล่า ในประเทศไทยจะอยู่ที่ 15,900 บาท ส่วนส่งออกจะขายอยู่ที่ 699 เหรียญสหรัฐ

 

 

อีกหนึ่งกลุ่มที่สนใจสินค้าของเรา คือคนที่ชอบเรื่องของศาสตร์ฮวงจุ้ย เขาจะซื้อตู้ของเราไปตกแต่ง ปลูกต้นไม้เพื่อให้ถูกตามหลักความเชื่อ มีลูกค้าบางรายตกแต่งตู้ แพงสุดที่เราเคยเห็นอยู่ที่ประมาณ 60,000 บาท เขาปลูกบอนไซต้นเล็ก ๆ ยิ่งเล็กก็ยิ่งแพง ซินแสเขาเห็นตู้ของเรา ก็แนะนำว่าให้ตกแต่งแบบเพิ่ม Option มีน้ำตก มีหมอก ซึ่งเมนบอร์ดที่เราดีไซน์ไว้ ด้านหลังจะมีปลั๊กเสียบ Option เสริมได้อยู่แล้ว แต่ความยากของน้ำตก คือเราต้องสร้างบ่อน้ำในตู้แยกส่วนจากแทงค์น้ำ และต้องสร้างภูเขาให้เป็นน้ำตก ส่วนการทำหมอก อาจจะมีปัญหาเรื่องการดูแล เพราะเหตุผลที่เราสร้างตู้ขึ้นมา เพื่อเป็นการผ่อนคลายที่ไม่ต้องดูแล ไม่ต้องมาคอยดูว่าน้ำแห้งไป หรือต้องคอยเติมน้ำเพิ่มในบ่อน้ำ กลายเป็นสร้างภาระให้กับผู้ใช้นอกจากนี้ยังกินไฟมาก แต่ถ้าลูกค้ารีเควสท์ เราสามารถทำให้ได้

 

 

 

การออกแบบตู้ทุกชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝาขอบ ยกเว้นตัวตู้ที่เป็นชิ้นเดียว ฐานจะมีสองชิ้น ด้านหลังจะมีอีกสองชิ้น ตอนที่เราดีไซน์ตัวนี้ขึ้นมา คิดอย่างแรกเลยว่า “ถ้าต้องส่งขายทั่วโลก เราไม่สามารถจะจ้างคนไปซ่อมตู้ให้เราได้” เพราะฉะนั้น ตู้จะต้องแยกชิ้นส่วน หากส่วนไหนเสีย เราสามารถส่งไปให้เขาได้ ในเว็ปไซต์จะมีวิธีการประกอบเป็นคลิปวิดีโอ เพื่อให้ลูกค้าสามารถประกอบใช้งานเองได้ หรือถ้ามีชิ้นไหนเสีย เราสามารถส่งให้ลูกค้าได้

 

 

ยิ่งความเป็นเมืองเกิดขึ้นมากเท่าไหร่ คนจะยิ่งโหยหาธรรมชาติมากเท่านั้น ความต้องการ (Requirement) ที่เราได้จากลูกค้าเวลาเราไปออกบูท คนจะถามว่ามีดีไซน์กี่แบบ มีไซซ์เล็ก หรือใหญ่กว่านี้ไหม? เท่าที่รีเสิร์ช เราพบว่าตู้ที่เราออกแบบ จะแมตช์กับเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายมากที่สุด และขนส่งสะดวก เราจึงเลือกไซซ์นี้เป็นมาตรฐานก่อน หากจะทำนอกเหนือจากนี้ ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมใหม่ทั้งหมด เช่นการวัดค่าต่าง ๆ ที่เหมาะกับไซซ์ เป็นเดโม่ที่ต้องพัฒนาใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น แต่ในอนาคตอาจเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เราจะพัฒนาไปให้ถึงขั้นนั้น ถ้าหากมีคนสนใจจะมาร่วมลงทุน เราจะไม่หยุดแค่เท่านี้เพราะเรา Remark ไว้หมดแล้ว ว่าจะต้องปรับปรุงเรื่องไหนบ้าง เราเตรียมความพร้อมเพื่อรอการพัฒนาในอนาคตเท่านั้นเอง