“Bubble Q” ชูจุดขายไข่มุกคาราเมล ย้ำวัตถุดิบแท้ 100% สั่งตรงจากไต้หวัน

++หากพูดถึง “ชาไข่มุก” ปัจจุบันกล้าพูดได้เลยว่าไม่มีคนไทยคนไหนที่ไม่รู้จักและน้อยมากๆ ที่ไม่จะเคยได้ลิ้มรสชาติความอร่อย นอกจากรสชาติของน้ำชาที่มีหลากหลายให้เลือกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบนั่นก็คือ “เม็ดไข่มุก” ที่หลายร้านนำสร้างเป็นจุดขาย อย่างเช่น ชานมไข่มุกแบรนด์ “Bubble Q” (บับเบิ้ล คิว) ความพิเศษชานมร้านนี้อยู่ที่รสชาติต้นตำรับและนำเข้าวัตถุดิบจากไต้หวันร้อยเปอร์เซ็นต์

++คุณ Huang Hui Ping (คุณโดนัท) ชาวไต้หวันเจ้าของร้านชาไข่มุก Bubble Q เล่าว่า Bubble Q เกิดจากความชื่นชอบดื่มชาไข่มุกอยู่แล้ว แต่หารสชาติที่เหมือนกินที่ไต้หวันไม่ได้ หลังจากนั้นได้มีการวางแผนประมาณ 2 ปี โดยได้มีการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับรสชาติชาไข่มุกเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย และหลังจากนั้นได้ก่อตั้งมาเป็นแบรนด์ Bubble Q ปัจจุบันเปิดมาได้มาประมาณ 2 ปี โดยมีหน้าร้านตั้งอยู่เลขที่ 333 ถนนโกสุมรวมใจ ดอนเมือง โดยพื้นที่ร้านเปรียบเสมือน Show Room ที่คอยให้คำแนะนำข้อมูลประกอบกับเปิดร้านขายชาไข่มุกควบคู่ไปด้วย

++ความพิเศษชาไข่มุกของ Bubble Q อยู่ที่วัตถุดิบทุกเมนูนำเข้ามาจากไต้หวัน 100% โดยไฮไลท์สำคัญของร้าน คือ ไข่มุกคาราเมล ซึ่งแตกต่างจากร้านทั่วไปตรงที่ตัวไข่มุกสอดไส้คาราเมล พร้อมกับมีกลิ่นหอมกับความอร่อย นอกจากนี้ยังมีชาASSAM และชาเขียวมะลิ ที่มีกลิ่นหอมมากกว่าชาของไทย ซึ่งทางร้านจะคัดสรรและใช้ชาเกรดเอ

++”ชาไข่มุกทุกเมนูของ Bubble Q โดยวัตถุดิบและไข่มุกเป็นชาไข่มุกแท้ๆ ที่กล้าพูดได้ว่ามาจากประเทศไต้หวันแท้ๆ100% เพราะตัวเองเป็นชาวไต้หวัน ที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 20 ปี ซึ่งมีความรู้ถึงแหล่งวัตถุดิบที่ไต้หวัน เป็นอย่างดี ตรงนี้อาจจะเป็นข้อได้เปรียบและส่งผลทำให้รสชาติของชาไข่มุกได้รสชาติที่เป็นต้นตำหรับจากไต้หวันแท้ๆ ส่วนไข่มุกเราจะไม่เก็บไว้นานเกิน 5 ชั่วโมง หลังจากที่ทำเสร็จเพื่อความสดใหม่ ถ้าทิ้งไว้นานเกินกว่า 5 ชั่วโมง อาจจะส่งผลให้ตัวไข่มุกบวม ไม่มีความหนึบและรสชาติอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้” คุณโดนัทเผยกลยุทธ์ที่สำคัญในมัดใจให้กับลูกค้า

++สำหรับเมนูชาที่เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดก็คือ ชานมไข่มุก ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกหรือเพิ่ม Topping อื่นๆ อาทิ วุ้นมะพร้าว พุดดิ้ง ฯลฯ ที่เสริมเข้าเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้าได้บริโภคตามความชอบของแต่ละบุคคล ส่วนขนาดของชาไข่มุกของร้าน Bubble Q มีให้ลูกค้าเลือกทั้งหมดด้วยกัน 2 ขนาด คือ M และ L

                ++ยิ่งไปกว่านั้น Bubble Q ยังมีเมนูชาไข่มุกสุดพิเศษ คือ ชานมไข่มุกร้อน ซึ่งปกติแล้วจะเห็นแต่ชาไข่มุกที่เป็นชาไข่มุกเย็น แต่สำหรับ Bubble Q ได้มีเมนูชาไข่มุกร้อนเพื่อตอบโจทย์สำหรับลูกค้าที่ชอบทานชาร้อนๆ ซึ่งคุณโดนัทกล้าพูดได้ว่าเมนูนี้ยังไม่ค่อยมีร้านไหนทำขายกัน รวมไปถึงการที่มีความหลากหลายของเมนูที่มีเรียกได้ว่าแทบจะไม่ซ้ำกับร้านอื่นๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน

++จากความสำเร็จดังกล่าว คุณโดนัทตัดสินขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ1.คอร์สเรียนทำชานมไข่มุก 69,900 บาท พร้อมกับวัตถุดิบการทำชาไข่มุกครบชุด 2.รูปแบบแฟรนไชส์ ราคา 199,000 บาท พร้อมเคาน์เตอร์และอุปกรณ์ครบชุด สามารถเปิดร้านได้ทันที สำหรับผู้ที่มีหน้าร้านอยู่แล้วและสนใจในตัววัตถุดิบแท้ๆ 100% ที่จะนำมาใช้การทำชานมไข่มุก ก็สามารถสั่งซื้อกับทางร้าน Bubble Q โดยตรงได้เลย ซึ่งทางร้านก็มีจำหน่ายพร้อมให้คำแนะนำต่างๆ ที่สำคัญยังมีบริการในการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อ

++ คุณโดนัท กล่าวเพิ่มเติมว่า Bubble Q ยังได้เปิดคอร์สและหลักสูตในการทำชาไข่มุก ซึ่งคอร์สที่เปิดสอนจะใช้ระยะเวลา 2-3 วันในการเรียนรู้ โดยการเรียนรู้จะเป็นการสอนแบบ One By One ซึ่งจะเป็นการสอนเกี่ยวกับขั้นตอนในการทำตั้งแต่เริ่มต้น จนสามารถทำชาไข่มุกได้จริง พร้อมกับลงมือทำกันจริงๆ ซึ่งเราจะให้คำแนะนำตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง จนไปถึงการเปิดร้านจริง พร้อมกับลงพื้นที่ไปดูหน้างานและให้คำแนะนำ วิธีแก้ไขปัญหาต่างๆ กรณีที่เกิดขึ้นในหน้างาน

++ “สำหรับผลตอบแทนหรือส่วนของกำไรที่มาจากเครื่องดื่มชาไข่มุก อยู่ที่ประมาณ 50-70% ต่อแก้ว ลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์กับเราสามารถคืนทุนภายใน 8-10 เดือน ผู้ที่สนใจหรือกำลังจะตัดสินใจในการที่จะลงทุนธุรกิจประเภทชาไข่มุก สิ่งสำคัญประการแรกๆ คือ ต้องมีใจรักกับสิ่งที่เราจะทำ หลังจากนั้นก็จะเป็นในเรื่องของทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เพราะตรงนี้ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญอีกหนึ่งอย่างพอๆ กับตัวสินค้านั่นเอง”

//////////////////////////////////////////////////