++คาดการณ์ว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้ จะเกิดการปฏิรูปการทำธุรกิจบนฐานของ “สินค้า” ไปสู่ฐาน “บริการ” เช่น เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจากขายสินค้า มาเป็นให้เช่าสินค้าแทน เป็นต้น ด้วยขนาดและความใหญ่ของธุรกิจบริการ รูปแบบสินค้าของรูปแบบบริการนี้สามารถเป็นอะไรก็ได้ตามแต่ธุรกิจจะสร้างสรรค์ นำไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมบริการในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดคือ บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) เพื่อลดขั้นตอนต่างๆ เหลือไว้ซึ่งความสะดวก รวดเร็ว ซึ่งเป็นหัวใจบริการของยุคนี้
++การทำงานที่เร่งรีบและแข่งขันกับเวลา ทำให้มีการนำเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ออนไลน์ที่ทันสมัยเข้ามาปรับใช้เพื่อให้เกิดความ สะดวกสบาย โดยเฉพาะธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน หรือ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ธุรกิจแฟรนไชส์บริการที่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่าง “วินเซ็นท์ เซ็นเตอร์เซอร์วิส” ธุรกิจ SMEs ที่รวมทุกการให้บริการตั้งแต่ การชำระค่าสาธารณูปโภคงานไปรษณีย์ ร้านถ่ายเอกสาร ร้านถ่ายรูปด่วน ศูนย์เติมหมึกพิมพ์ บริการโลจิสติกส์ร้านค้า รวมกว่า 20 บริการ มาไว้ในร้านเดียวกันเป็นร้านแบบครบวงจร ปัจจุบันมีสาขามากถึง 270 สาขาทั่วประเทศ
++ข้อดีของธุรกิจร้านบริการลักษณะนี้คือ การนำหลายๆ บริการมารวมไว้ที่เดียวกันจึงทำให้มีต้นทุนไม่สูงมาก บริการบางอย่างสามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นเดียวร่วมกันได้ ไม่เปลืองพื้นที่และไม่ต้องมีการสต๊อกสินค้าเหมือนประเภทอื่นอีกด้วย แต่ปัญหาคือต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการเช่นกัน เพราะมิฉะนั้นแล้วด้วยค่าบริการ เช่นการส่งไปรษณีย์ที่อาจมีราคาสูงกว่าการส่งที่ไปรษณีย์เอง อาจจะทำให้ผู้ใช้บริการเกิดการเปลี่ยนใจ ไม่กลับมาใช้บริการแล้ว นี่คือความเสี่ยงที่ธุรกิจแนวนี้
++Home Delivery ส่งถึงบ้าน ตลาดรอขยาย
++บริการสินค้าที่เพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว คงหนีไม่พ้น “บริการไปถึงที่” หรือ “ส่งตรงถึงบ้าน” ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้า ที่ให้ความรู้สึกคุ้มค้ากว่าเดินทางไปที่ร้าน กรณีของ Novel Car Wash Delivery บริการล้างรถเคลื่อนที่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามอเตอร์ไซค์คันเดียวก็สามารถทำได้ของเด็กหนุ่ม “ชนม์ชลิต ดีมี” โดยเขามองว่า ที่ใดมีรถ ที่นั่นก็ย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ จากความคิดสร้างสรรค์ที่หลายคนมองว่าเพ้อฝัน จะสามารถเป็นรูปร่างขึ้นมาในที่สุด
++จุดเด่นอันเป็นต้นเหตุแห่งโอกาสที่สำคัญของ “ชนม์ชลิต” มาจากการเป็นธุรกิจที่มีนวัตกรรม ย่อขนาดร้านล้างรถให้เหลือแค่มอเตอร์ไซค์ 1 คัน แต่ทำงานได้ทุกอย่างไม่ต่างจากร้านล้างรถทั่วไป จึงตอบสนองความต้องการของผู้คนในยุคปัจจุบันได้ดี ซึ่งการมีระบบน้ำและไฟฟ้าเคลื่อนที่ ช่วยสร้างความพิเศษคือ ทำให้สามารถทำงานได้ทุกพื้นที่ รวดเร็ว และคิดค่าบริการไม่แพง คนเดียวขับให้บริการ 60-70 คันต่อเดือน
++เป้าหมายต่อไปของเขาคือ ก้าวไปสู่บริการครบวงจร เช่น เพิ่มบริการขัดสี ฟอกเบาะ ต่อ พรบ.ทำประกันรถยนต์ และรับติดป้ายโฆษณาบนตัวรถมอเตอร์ไซค์ โดยจะขยายสาขาให้ได้ 50-100 สาขาภายใน 1 ปี ความเร็จเริ่มต้นจากแนวคิดง่ายๆ “หากอะไรที่เป็นเรื่องดี มีคนต้องการมากกว่า 1 คน ก็จงลองทำดู”
++ ยังมีธุรกิจเดลิเวอรี่อีกหลายรูปแบบที่เมืองไทย มองง่ายๆ ว่ากิจวัตรประจำวันของคนโดยส่วนใหญ่ต้องผูกพันอยู่กับสิ่งใดบ้าง ตัวอย่างเช่น เรื่องอาหารการกิน “Zabbver Delivery” เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาคนหิวของอร่อยดังๆ แต่ไปไม่ถึงเพราะปัญหารถติด ไปแล้วกลับมาทำงานไม่ทัน ไปแล้วไม่คุ้มค่าน้ำมัน “ภีม พิพัฒน์มโนมัยกุล” ผู้บริหาร Zab entertainment จึงเสนอต้วเข้ามาให้ความสะดวกสบาย อยากกินอาหารสตรีตฟู้ดร้านดังๆ ในกรุงเทพฯกรุงเทพฯ เพียงสมัครสมาชิกแล้วเข้าไปคลิกในเว็บไซต์ของ Zabbver จะส่งให้ถึงบ้านภายในเวลา 1 ชม.เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ยอดขายที่โตขึ้น 10%ทุกเดือน
++ บริการถึงบ้านในเมืองไทยยังมีช่องว่างให้ทำอีกมาก ตัวอย่างเข่น บริการรับซื้อของเก่าตามบ้าน ที่ยังไม่ใครหยิบรูปแบบธุรกิจคลาสสิค “รถซาเล้ง” มาพัฒนาให้เป็นระบบเลื่อนขั้นเป็นบริษัทเก็บขยะเหลือใช้ตามบ้านเริอน ซึ่งในต่างประเทศมีบริการแนวนี้เยอะมาก อย่างเช่น บริษัทขนขยะ 1-800-Got-Junk ในประเทศแคนาดา ให้บริการขนย้ายของเก่าออกบ้าน สั่งงานผ่านทางโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต ที่มาพร้อมกับพาหนะขนย้าย และทำความสะอาดพื้นที่ให้ด้วย ความสำเร็จของธุรกิจขนขยะออกจากบ้านแบบเดลิเวอรีดังกล่าว เติบโตและขยายแฟรนไชส์ไปที่อังกฤษและออสเตรเลีย
++ ธุรกิจเดลิเวอรี่บางครั้งก็ไม่ต้องใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย เช่น บริการอาหารใส่บาตรถึงที่ บริการความงามถึงที่ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นที่ต้องการและสามารถสร้างรายได้งามๆ ให้เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ทั้งนี้การจะสร้างธุรกิจเดลิเวอรี่ใดๆ ขึ้นมาก็ตาม ผู้ประกอบการต้องมองถึงพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก และต้องสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้ได้ว่าบริการต่างๆ นั้นสามารถสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้จริงๆ
