“ไวท์เนเจอร์” เครื่องดื่มชาขาวสมุนไพร ฉีกซองพร้อมชง เปิดลงทุนหลักพัน

++เมื่อพูดถึงเรื่องการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ปัจจุบันพบว่าคนไทยส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับสุขภาพมากยิ่งขึ้น จึงต้องหาสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายให้มากที่สุด โดยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย เครื่องดื่มสมุนไพร หรือชาเพื่อสุภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจมากขึ้น

++คุณสิริพงศ์ ชัยเมธสิทธิ์ กรรมการ บริษัท ไวท์เนเจอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับชาขาวผสมสมุนไพร ภายใต้แบรนด์ “ไวท์เนเจอร์” เป็นชาชงสำเร็จรูปพร้อมดื่ม ส่วนผสมมาจากสมุนไพรธรรมชาติ ผลิตและคิดค้นสูตรจาก บริษัท ที แกลเลอรี่ (ควบคุมการผลิตโดย FIVE STARS HERBS ที่ได้มาตรฐาน GMP) ซึ่งเป็นสูตรผสมของภูมิปัญญาโบราณระหว่างไทย-จีน ตามแบบฉบับแผนโบราณที่พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ด้วยการปลูกชาขาวบนพื้นที่ที่เหมาะสมและปลูกด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ โดยไม่ใช้สารเคมี ขั้นตอนการผลิตใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วยในการรักษาคุณภาพและคุณค่าของสมุนไพร ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่แต่งสีแต่งกลิ่น

++ผลิตภัณฑ์ไวท์เนเจอร์มีชื่อเสียงทางด้านผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรแท้ 100% กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายคือ กลุ่มผู้ที่ใส่ใจด้านการดูแลสุขภาพจากเครื่องดื่มที่มาจากธรรมชาติ โดยส่วนมากลูกค้าจะเป็นกลุ่มดื่มเพื่อบำบัดโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด 70% และผู้ที่ดื่มเพื่อดูแลสุขภาพทั่วไป 30% สำหรับจุดขายของสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่งไลน์เดียวกัน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นที่คุณภาพและการดื่มแล้วได้ผลดีของผลิตภัณฑ์ จึงทำให้เป็นสินค้าที่ดื่มแล้วเกิดการบอกต่อ รสชาติดี ดื่มง่ายไม่ขมเหมือนชาทั่วไป ให้กลิ่นหอมที่เป็นธรรมชาติของตัวชาและสมุนไพรแท้ๆ

++ผลิตภัณฑ์ชาขาวผสมสมุนไพร ตราไวท์เนเจอร์ 1 กล่อง ประกอบด้วยซองชาจำนวน 60 ซอง จำหน่ายที่ราคา 800 บาท/กล่อง บริษัทพร้อมมอบส่วนลดพิเศษสุดถึง 25% (เหลือเพียง 600 บาท) ให้แก่ลูกค้าที่สนใจ และเมื่อสั่งซื้อจำนวน 1 ลังขึ้นไป ก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มขึ้นตามปริมาณการสั่งซื้อ

++“หากถามถึงทำเลที่เหมาะสมกับธุรกิจ แนะนำเป็นร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ แหล่งที่มีกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ หรือ มีกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงกับโรคเบาหวาน อาการความดันโลหิตสูง หรือไขมันในหลอดเลือดสูง ‘ไวท์เนเจอร์’ เป็นสินค้าสูตรที่เน้นเฉพาะกลุ่ม ไม่เหวี่ยงแห จึงทำให้ลูกค้ายังคงติดใจและใช้สินค้าอย่างต่อเนื่อง และเมื่อสินค้าเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภค วิธีการกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค จึงเลือกใช้ช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย ตามจังหวัดต่างๆ และได้มีการทำการตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างต่อเนื่องทุกช่องทาง ส่วนงบการลงทุนในธุรกิจ เริ่มต้นเพียงหลักพันบาทเท่านั้น” คุณสิริพงศ์ กล่าว

++ผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่ใช่ยา แต่เป็นเครื่องดื่มจากภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนที่คิดค้นกันมาอย่างยาวนาน แต่นำมาทำให้ทานง่ายขึ้นโดยไม่ต้องมานั่งต้มในหม้อยาเหมือนสมัยก่อน ซึ่งกว่าจะได้ดื่มต้องต้มต้องเคี่ยวกันเป็นวันๆ เมื่อมายุคของโลก Social Network การผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภคยุคนี้จึงต้องมีความทันสมัยและเสิร์ฟความสะดวกให้ได้มากที่สุด การดื่มชาไวท์เนเจอร์จึงเป็นอะไรที่ง่ายมากๆ เพียงต้มน้ำร้อนฉีกซองแล้วจุ่มก็ได้ชาพร้อมดื่มทันที

            ++คุณสิริพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม เกี่ยวกับการปรับตัวทางธุรกิจ SMEs หากมีการเปิด AEC ว่าด้วยมาตรฐานสินค้าจากโรงงานที่ได้มาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของอาเซียนอยู่แล้ว เช่น GMP Codex, HACCP, ISO 22000 ทำให้สามารถเข้าไปทำตลาดได้ง่ายขึ้น โดยข้อจำกัดเงื่อนไขการกีดกันการค้าจะลดลง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ไวท์เนเจอร์ยังมีใบรับรอง HALAL ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลุ่มผู้บริโภคมุสลิมที่จะยอมรับ หากเปิด AEC แล้วจะมีประชากร 600 ล้านคน มีมุสลิมเกินกว่าครึ่ง ด้วยนิสัยการบริโภคของคนเอเชียมักจะทานอาหารหวานมันจึงทำให้มีปัญหาเรื่องโรคเบาหวาน โรคอ้วน ไขมันในเส้นเลือดสูง ความดันโลหิตสูงซึ่งล้วนเป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้า ดังนั้นจึงมองว่าการเปิด AEC น่าเป็นโอกาสของบริษัท แต่ทั้งนี้ก็พร้อมที่จะพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น

//////////////////////////////////////////////////////