รู้หรือไม่? ปลาไทยชนิดไหนที่มีโอเมก้า 3 สูงกว่าปลาแซลมอน


ปกติแล้วเมื่อเราได้ยินคำว่า “โอเมก้า–3” เราก็มักจะนึกถึงกรดไขมันดีที่มีอยู่ในปลาทะเลที่มีราคาแพงๆ อย่างเช่น ปลาแซลมอล, ปลาเทราต์, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่า, ปลาแมคคาเรล ซึ่งเป็นปลาที่นำเข้าจากต่างประเทศ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเมืองไทยเราก็มีปลาที่มีประโยชน์เหมือนกัน

โดยเฉพาะกับปลาน้ำจืดที่เราๆ ไม่ค่อยจะนึกถึงสักเท่าไหร่ แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วมีปลาน้ำจืดบางชนิดที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงไม่แพ้ปลาทะเลจากเมืองนอกเลยทีเดียว  และปลาน้ำจืดที่ว่านี้ก็คือ “ปลาสวาย”ของไทยเรานี่แหละ ว่ากันว่ามีโอเมก้า 3 สูงถึง 2,570 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม มากกว่าปลาทะเลอย่างปลาแซลมอนที่มีโอเมก้า 3 ราว ๆ 1,000-1,700 มิลลิกรัม ถึง 3 เท่าด้วยกัน

นอกจากปลาสวายแล้ว ยังมีปลาช่อนที่มีโอเมก้า 3 สูงถึง 870 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม รวมทั้งปลากะพงขาวมีโอเมก้า 3 ประมาณ 310 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งปลาน้ำจืดของไทยนี้หาซื้อไม่ยาก แถมยังราคาถูกกว่าปลาทะเลน้ำลึกอีกด้วย

ทีนี้มาทำความรู้จักกับคำว่า “โอเมก้า 3” กันอีกสักนิด ว่าเจ้าตัวนี้มันมีดีอย่างไรต่อร่างกายของเรา

1.ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะโอเมก้า 3 จะช่วยป้องกันการสะสมของไขมันอิ่มตัว หรือคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดอุดตัน

2.บำรุงสมอง เพราะกรดไขมัน DHA ในโอเมก้า 3 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมองในส่วนความจำ การเรียนรู้ ความสามารถของสมอง อารมณ์ และพฤติกรรม

3.บำรุงระบบประสาทและสายตา เพราะโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อการสร้างผนังเซลล์

4.กรด EPA ในน้ำมันปลามีบทบาทสำคัญในการรักษาโรคซึมเศร้า อาการขาดสมาธิ นอนไม่หลับ  และประการสุดท้าย ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ

ที่มา : Thaiquote