OTOP “หัถตศิลป์ ศิลปิน ร 9” ครั้งที่ 1 3-5 มี.ค 60 ณ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่


“ทัพศิลปินโอทอปทั่วไทย” จัดงานหัถตศิลป์ ศิลปิน รัชกาลที่ 9″ เครือข่ายศิลปินโอทอปแห่งประเทศไทย รวมตัวศิลปิน 50 รายจากทั่วประเทศ ขับเคลื่อน จัดงาน หัถตศิลป์ ศิลปิน รัชกาลที่ 9 ครั้งที่ 1 นำสินค้าหัตถกรรมร่วมจัดแสดง พร้อมจำหน่ายที่ เชียงใหม่ศิลาดลดอยสะเก็ด หวังให้งานหัตถกรรมเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าเงินสะพัดในงาน 10 ล้านบาท

นางสาวทัศนีย์ ยะจา เจ้าของเชียงใหม่ศิลาดล บายทัศนีย์แอดดอยสะเก็ดเชียงใหม่ ในฐานะประธานเครือข่ายศิลปินโอทอปแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมพัฒนาชุมชนได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพศิลปินโอทอป โดยเชิญผู้ประกอบการโอทอป จำนวน 50 ราย จากทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม เพื่อต้องการพัฒนางานด้านหัตถศิลป์ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมกลุ่มเครือข่ายศิลปินโอทอปแห่งประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนยกระดับสินค้าประเภทหัตกรรมให้มีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น

กิจกรรมดังกล่าวนี้ เกิดจากภาครัฐโดยกรมพัฒนาชุมชน ต้องการกระตุ้นให้กลุ่มศิลปินโอทอปที่มีศักยภาพรวมตัวกัน และยกระดับสินค้าของตัวเอง ให้เป็นที่รู้ได้อย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาผู้ประกอบการต่างได้รับการสนับสนุน ทั้งในเรื่องของการส่งเสริมด้านวิชาการ และการตลาดจากภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการแสดงให้ภาครัฐเห็นว่าหลังจากได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากภาครัฐมาโดยตลอดเกิดผลอย่างไรบ้าง จึงเป็นที่มาของการจัดงาน หัถตศิลป์ ศิลปิน รัชกาลที่ 9 ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 3-5 มีนาคม 2560 ที่เชียงใหม่ศิลาดล บายทัศนีย์แอดดอยสะเก็ดเชียงใหม่ เพื่อนำเสนอผลงานของศิลปินในเครือข่ายจำนวน 50 ราย ซึ่งขณะนี้ตอบรับนำสินค้ามาแสดงจำนวน 45 ราย โดยจัดแสดงผลงานบนบ้านไม้เรือนไทย ในลักษณะแกลลอรี่

นอกจากนั้น ยังจัดให้มีกาดหมั้วบริเวณลานสนามหญ้า เพื่อให้ผู้ ที่เดินทางเข้ามาชมงานได้เลือกซื้อสินค้า และอาหารพื้นเมือง จากเด็กนักเรียนโรงเรียนดอยสะเก็ด ตลอดระยะเวลา 3 วัน ส่วนแกลลอรี่จัดแสดงงานหัตถศิลป์ด้านต่างๆ ได้แก่ งานเครื่องปั้นดินเผา งานผ้า งานเบญจรงค์ งานเครื่องประดับ งานจักสาน งานทองเหลือง งานเครื่องถม งานไม้ งานเครื่องหนัง กำหนดพิธีเปิดงานในวันที่ 4 มีนาคม 2560 เวลา16.00 น. โดยมี นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เดินทางมาเป็นประธานในพิธี และ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ จะนำนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามา เพื่อเจรจาการค้าและเลือกซื้อสินค้าภายในงานนี้ด้วย สำหรับการจัดงานครั้งนี้กลุ่มศิลปินโอทอปได้ตั้งเป้ารายได้จากการจำหน่ายสินค้าภายในงานไว้ประมาณ 10 ล้านบาท

สำหรับงานศิลปะหัตกรรมของประเทศไทยเป็นงานที่มีความละเอียดประณีตสวยงาม เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องการแสดงความสวยงามนี้ให้บุคคลทั่วไปทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เห็นถึงศิลปะที่สวยงามของไทย การรวมตัวของศิลปินโอทอป เพื่อแสดงสินค้าด้านหัตถศิลป์ การจัดงานครั้งนี้จึงถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เครือข่ายศิลปินโอทอป ร่วมกันจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยจะนำสินค้าเด่นจาก 50 ศิลปินโอทอปหลากหลายงานหัตถศิลป์มาร่วมจัดแสดงในงาน ในส่วนของ เชียงใหม่ศิลาดล บายทัศนีย์แอดดอยสะเก็ดเชียงใหม่ จะนำผลงานคอลเลคชั่นพิเศษชุดของตกแต่งเครื่องปั้นดินเผา เพื่อโชว์ความสวยงามของเนื้อดิน ที่เคลือบศิลาดลด้วยเทคนิคพิเศษแห่งแรกในประเทศไทย มูลค่าหลักล้านบาทมาร่วมแสดงในวันงาน

นางสาวทัศนีย์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันภาครัฐได้พยายามผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 สินค้าหัตถกรรมก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นหัตถกรรม 4.0 ได้เช่นเดียวกันเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมโยงเป็นช่องทางในการกระจายสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ด้วยการประชาสัมพันธ์สินค้าไปทั่วโลก โดยการแสดงความสวยงามของสินค้าให้เป็นที่รู้จัก การขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมจึงต้องอาศัยความสามัคคีของกลุ่มผู้ประกอบการ ช่วยกันพัฒนารูปแบบสินค้าให้เป็นไปตามที่ตลาดต้องการ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มศิลปินที่ผลิตชิ้นงานออกมานั้นจะต้องมีกาปรับตัวเองจากที่เคยผลิตชิ้นงานตามใจตัวศิลปิน ต้องปรับด้วยการมองความต้องการของตลาดเป็นหลัก เพื่อความอยู่รอดของศิลปินและความยั่งยืนของงานหัตถกรรม

การจัดงานในครั้งนี้เครือข่ายศิลปินโอทอปแห่งประเทศไทยใช้งบประมาณของกลุ่มศิลปินร่วมกันจัดงานขึ้นมา โดยไม่ได้อาศัยงบประมาณจากภาครัฐ แต่ภาครัฐเข้ามาช่วยในเรื่องของการสนับสนุน ส่งเสริม และการประชาสัมพันธ์ โดยหวังว่าโครงการดังกล่าวนี้จะเป็นโมเดลนำร่อง เพื่อแสดงให้เห็นถึงการรวมกลุ่มกันบริหารจัดการงานโดยไม่ได้ใช้งบประมาณจากภาครัฐเข้าช่วยจนประสบความสำเร็จ ในอนาคตหากภาครัฐเห็นถึงความสำคัญของโครงการที่กลุ่มเครือข่ายดำเนินการ อาจจะมีการจัดสรรงบประมาณบางส่วนเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง