มาแล้ว! เทรนด์อาหาร “free form” ตอบโจทย์สายเฮลตี้


อาหารกลุ่ม “free form” หรือสินค้าทีพิมพ์บนฉลากอย่างชัดเจนว่า “ปราศจากสารปรุงแต่ง หรือการเพิ่มสารอาหารต่างๆ” เช่น ไม่เติมสารกันบูด ไม่แต่งสี มีไขมันต่ำ ปลอด GMO ไร้น้ำตาลและน้ำมัน กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในอิตาลี โดยมีจำนวนกว่า 19% ของสินค้าทั้งหมด มีฉลากอย่างน้อย 13 ประเภทในสินค้า 6,700 รายการ และล่าสุดยังสามารถทำมูลค่าการซื้อขายสินค้าอาหารทั้งหมดในอิตาลีได้ถึง 28.4%

จากการศึกษาวิจัยการตลาดของบริษัท Nielsen GS1 Italy เกี่ยวกับปรากฏการณ์ของการบริโภค โดยการวิเคราะห์ข้อมูลของฉลากและบรรจุภัณฑ์สินค้ากลุ่ม “free form” กว่า 36,000 รายการในห้างร้านทั่วอิตาลีพบว่า ปัจจุบันสินค้ากลุ่ม “free form” ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังเป็นกลุ่มสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว จนกลายเป็นสินค้าในกระแสหลักที่ไม่ถูกจัดเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม (niche-market) อีกต่อไป ทั้งนี้ สินค้า “free form” ยังจัดเป็นสินค้าที่มีผลประกอบการดีที่สุดในกลุ่มอาหาร

การศึกษาวิจัยยังมีการจำแนกประเภท เช่น “การไม่ใส่สารกันบูดไปจนถึงปลอด GMO” หรือ “ไม่มีไขมันอิ่มตัวและแคลอรีต่ำ” ซึ่งพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าแบบนี้ได้สร้างการเติบโตของกลุ่มสินค้าใหม่ที่นอกเหนือจากกลุ่มประเภทสินค้าแบบเดิม ฉะนั้น สินค้ากลุ่ม “free form” จึงเป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากการผลิตสินค้าไม่กี่ประเภทที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้อนสู่กลุ่มตลาดเล็ก และต่อมาก็ได้ขยายจนกลายเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดใหญ่ที่เป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ

ในบรรดาสินค้า “free form” ทั้งหมด ที่ผู้ค้านิยมระบุลงในฉลากมากที่สุดคือ “การปราศจากสารกันบูด” โดยมีจำนวนมากถึง 8.5% ของสินค้าประเภทอาหาร 36,000 รายการ หรือเท่ากับ 12.7% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ขณะเดียวกันการเพิ่มประเภทลงในฉลาก อย่าง การไม่ปรุงแต่งสี พบว่ามีกว่า 4.5%, การปลอด GMO (1.9%), ไม่มีไขมันอิ่มตัว (1.7%), และปราศจากสารให้ความหวาน (0.1%)

แต่น่าสังเกตว่ามูลค่าการขายสินค้าที่ติดฉลากเหล่านี้กลับลดลง ในขณะที่สินค้าประเภทอื่นๆที่ติดฉลากดังต่อไปนี้ได้เติบโตขึ้น เช่น การติดฉลากไม่ใส่สารเติมแต่งมีการขายเติบโตขึ้นถึง 3.8% เช่นเดียวกับการติดฉลากว่าปราศจากเกลือ, ไขมัน, น้ำตาลและน้ำมันปาล์ม ก็มียอดขายเติบโตขึ้นนอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่ปราศจากเกลือเพิ่มขึ้น 15.2%, ปราศจากน้ำมันปาล์ม เพิ่มขึ้น 13.5%, ปราศจากน้ำตาลเพิ่มขึ้น 10.5%, ปราศจากไขมันอิ่มตัวเพิ่มขึ้น 6.9%, สินค้าแคลอรีน้อยเพิ่มขึ้น 3.3%, ไม่มีไขมันหรือไขมันต่ำเพิ่มขึ้น 2.2% และสินค้าน้ำตาลน้อยเพิ่มขึ้น 2.1% โดยเฉพาะการระบุฉลากสินค้าว่า “ปราศจากน่ามันปาล์ม” ที่เติบโตมากขึ้นในเวลาอันสั้นนั้น สืบเนื่องมาจากการรณรงค์ต่อต้านการใช้น้ำมันปาล์ม ส่งผลให้สินค้าที่มีมันปาล์มเป็นส่วนประกอบ ถูกกำจัดออกจากสินค้าอาหารมากที่สุด ซึ่งเพียงแค่ 1 ปีการขายสินค้าที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม ได้มียอดขายเพิ่มขึ้น 13.5% และมีส่วนแบ่งตลาดที่ 5.7%