จากเงาะและกะทิราคาถูก สู่ เซรั่มบำรุงผิวหน้า กระจ่างใสระดับพรีเมียม


เซรั่มบำรุงผิวหน้า ที่ใช้เทคโนโลยีนีโอโซมซึ่งพัฒนาด้วยกะทิ

ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ บุญพิสุทธินันท์ นักวิจัยและอาจารย์วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย บอกกล่าวถึงที่มาของ “ผลิตภัณฑ์ เซรั่มบำรุงผิวหน้า ที่ใช้เทคโนโลยีนีโอโซมซึ่งพัฒนาด้วยกะทิ” รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1ประเภทเกษตรศาสตร์ การประกวดสิ่งประดิษฐ์และเทคโนโลยี งานประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครั้งที่ 9 (9 th RMUTNC)

ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ บุญพิสุทธินันท์ เล่าว่า นำเทคโนโลยีนาโน โดยใช้ “นีโอโซม” เหมือนถุงที่ค่อยห่อหุ้ม ซึ่งประกอบด้วย แรงตึงผิว และคลอเรสเตอรอล และ อาจเติมใส่กรดสเตียริกลงไปเพื่อเพิ่มความคงตัวและประสิทธิภาพการกักเก็บ แต่ด้วยราคาแพงและต้องนำเข้าจากประเทศ

จากการค้นคว้าวิจัยและหาข้อมูล

กะทิ มีสมบัติเป็นสารอิมัลซิไฟเออร์ที่ดี เมื่อนำมาผสมกับนีโออนุภาคเล็ก เพื่อประสิทธิภาพในการกักเก็บสารสำคัญสูงได้ถึง 80 % ซึ่งดีกว่ากรดสเตียริก นอกจากนี้ยังได้นำนีโอโซมที่พัฒนาได้ไปกักเก็บสารสกัดจาก เงาะ พันธุ์สีชมพู ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของ อ.ขลุง จังหวัดจันทบุรี จากงานวิจัยก่อนหน้า ซึ่งมีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระ กระตุ้น คอลลาเจน และ ลดการสร้างเมลานินเทียบ เท่าได้กับ กลูต้าไธโอน และนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ เซรั่มบำรุงผิวหน้า ซึ่งจะช่วยบำรุงให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดริ้วรอย ลดฝ้า กระ และจุดด่างดำ ช่วยฟื้นฟูและปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการซึมผ่านสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ สามารถบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นได้ดี

“การวิจัยและพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างลงตัว โดยการเพิ่มมูลค่าให้กับมะพร้าว  และ การใช้ประโยชน์ในเชิงอนุรักษ์ ของเงาะพันธุ์สีชมพู ให้กับจังหวัดจันทบุรี จะช่วยลดการนำเข้าสารเคมีจากต่างประเทศ และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยได้” ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ บุญพิสุทธินันท์ กล่าวทิ้งท้าย ผู้ประกอบการที่สนใจนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์

สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่
ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ วิทยาลัยการแพทย์  โทร.0-2592-1999 ต่อ 1112