“สนธิรัตน์” ยืนยัน ไม่โยกวงเงินบัตรผู้มีรายได้น้อย


https://www.youtube.com/watch?v=gjCFvK3g7UQ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยัน รัฐบาลและ นายสมคิด จตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรียังไม่มีการหารือ หรือพูดคุยใดๆ เกี่ยวกับการขยายวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่มีการโยกเงินจากเรื่องการเดินทาง หรือ ค่าใช้จ่ายใดๆ มาเข้าวงเงินสำหรับการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค และจะไม่มีการดำเนินการแจกเงินสด เพราะเห็นว่าผู้มีรายได้น้อยอาจจะนำเงินไปใช้ผิดประเภท ส่วนร้านค้าแผงลอยนั้น ที่ใช้บัตรไม่ได้เพราะจะยกระดับร้านค้าให้มีมาตรฐาน เข้าสู่ระบบ และวัตถุประสงค์ คือไม่ได้ต้องการให้นำบัตรไปซื้ออะไรก็ได้ทั่วประเทศ

โดยภายใน 1 เดือน จะมีประเมินผลของโครงการอีกครั้ง ว่าจะเพิ่มเติมในส่วนใดหรือไม่ พร้อมยืนยัน ว่าโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ได้เอื้อประโยชน์แก่ร้านค้า หรือ ผู้ผลิตรายใหญ่เท่านั้น เพราะร้านค้ารายเล็กก็มีการติดตั้งเครื่อง EDC และการพิจารณาการติดตั้งเครื่อง หรือร้านค้าเข้าร่วมโครงการจะดูจากจำนวนผู้ถือบัตรในพื้นที่เป็นหลัก

โดยในวันนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ลงพื้นที่สำรวจการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตบางบอน พบว่า มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าประชาชนได้เดินทางไปรับบัตรในจุดที่ตนเองได้ลงทะเบียนไว้ จากนั้นได้เดินทางเพื่อมาใช้สิทธิยังร้านค้า แต่พบว่ายังมีปัญหาความไม่เข้าใจ และไม่ทราบเงื่อนไข รวมถึงวงเงินในบัตร รวมทั้งไม่รู้ว่ามีร้านใดที่สามารถใช้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้บ้าง

ขณะที่ การซื้อสินค้าสำหรับประชาชนที่เข้าใจการใช้บัตรเป็นไปอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่จะใช้ซื้อสินค้าประเภท ข้าวสาร น้ำมัน เครื่องปรุงรส และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดยจะใช้บัตรเต็มวงเงินที่ได้รับในครั้งเดียว โดยในภาพรวมการจำหน่ายสินค้าของร้านค้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานและเตรียมความพร้อมร่วมกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่างใกล้ชิด สำรองสินค้าและจัดลำดับผู้ที่มารอใช้สิทธิเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น

โดยขณะนี้มีผู้ผลิตเข้าร่วมโครงการแล้ว 24 ราย รวมจำนวนสินค้ากว่า 318 รายการ ในขณะที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ในกรุงเทพมหานครสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 902 ร้านค้า ครอบคลุม 50 เขต ทั่วกรุงเทพฯ ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพฯ มีจำนวน 552,278 ราย

 

ด้าน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวลือที่ว่าจะมีการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนการใช้จ่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็น 700 – 800 บาทนั้น จากเดิม 200 – 300 บาทนั้น ว่า ไม่เป็นความจริง และเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวเป็นที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ไปศึกษาแนวทางในการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนการใช้จ่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งยังไม่ได้มีการสรุปเงื่อนไขที่ชัดเจนแต่อย่างใด

นาย สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวว่ากระทรวงการคลังเตรียมปรับเงื่อนไขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ หลังพบหลายคนไม่ได้ใช้ รถไฟฟ้า รถไฟและ บขส. โดยจะโยกวงเงินส่วนนี้ไปเพิ่มการใช้จ่ายใน ร้านธงฟ้าแทน นั้น ไม่เป็นความจริง และ กระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายในเรื่องดังกล่าว แต่พร้อมศึกษา หากรัฐบาลต้องการให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงนโยบาย เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้ตรงจุด

สำหรับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย จะได้รับวงเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในระบบขนส่งมวลชน ในสามกลุ่ม คือ รถเมล์และรถไฟฟ้า ให้วงเงิน 500 บาทต่อราย ค่าใช้จ่ายเดินทางโดยรถ บขส. วงเงิน 500 บาทต่อราย และค่าเดินทางโดยรถไฟ 500 บาทต่อรายสำหรับซื้อสินค้าร้านธงฟ้าน ผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้วงเงินเดือนล 300 บาท ส่วนคนที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000บาทต่อปี จะได้วงเงินเดือนละ 200 บาท