ซัพพลายเชน กับ บล็อกเชน เกี่ยวข้องกันอย่างไร


ซัพพลายเชนประกอบด้วยเครือข่ายที่ซับซ้อนของซัพพลายเออร์, ผู้ผลิต, ผู้จัดจำหน่าย, ผู้ค้าปลีก และผู้บริโภค ดังนั้นผลิตภัณฑ์ต้องผ่านหลายขั้นตอน มันถูกถ่ายโอนผ่านมือนับร้อยจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์หนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง กิจกรรมทั้งหมดนี้อาจใช้เวลาเป็นเดือน

จึงทำให้ซัพพลายเชนมีความยุ่งยากมากสำหรับลูกค้าหรือผู้ซื้อ ในการสืบค้นกลับที่มาของผลิตภัณฑ์ เป็นผลให้มันมีปัญหาเรื่องความโปร่งใสของที่มาและราคาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

บล็อกเชน สามารถช่วยจัดการเรื่องนี้โดยนำการมองเห็นและความโปร่งใสเข้ามา ดังนั้นมันสามารถส่งผลกระทบต่อวิธีการทำธุรกรรมเริ่มต้น, การบันทึก และรายงาน มันสามารถช่วยให้ธุรกิจประหยัดเงินและสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้า

บล็อกเชน เป็นเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย ซึ่งแต่ละบล็อกจะทำการบันทึกทุกธุรกรรม บล็อกเหล่านี้จะมีการเข้ารหัสและจัดเรียงต่อกันกัน จึงทำให้มีความเสี่ยงน้อยที่จะถูกแฮก อีกทั้งมีความโปร่งใสสูง ไม่มีใครมีอำนาจควบคุมการทำธุรกรรมในบล็อกเชนโดยลำพังได้

ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ ช่วยลดปัญหาเรื่องการปลอมแปลง และทำให้การเรียกคืนผลิตภัณฑ์ทำได้ง่ายขึ้น อย่างในกรณีที่ผลิตภัณฑ์มีข้อบกพร่องผู้ผลิตจะสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

เมื่อทุกคนในซัพพลายเชนไม่ว่าจะเป็น ซัพพลายเออร์, ผู้ซื้อ, คลังสินค้า และผู้ใช้ปลายทาง สามารถทำการค้นหาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผลิตภัณฑ์ขณะที่มีการขนส่ง ดังนั้นทุกคนจึงมั่นใจได้ว่าทุกอย่างผ่านขั้นตอนที่ถูกต้องมาแล้ว

Walmart ใช้บล็อกเชนเพื่อติดตามถึงแหล่งที่มาของหมูในประเทศจีน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของเนื้อสัตว์, การแปรรูป, การจัดเก็บ และการขายตามวันทีที่ระบุเอาไว้

De Beers ผู้ผลิตและจำหน่ายเพชรใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อติดตามก้อนหินที่ขุดจากเหมืองไปยังร้านค้า ด้วยวิธีนี้ทำให้บริษัทหลีกเลี่ยงเพชรเถื่อนที่ไม่มีการรับรองความถูกต้องที่จะแทรกเข้ามาในระบบได้

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเข้ามายกระดับการทำงานของซัพพลายเชนให้มีความสะดวกรวดเร็วและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

อ้างอิง: