5 เทคโนโลยีสุดฮอตที่จะมีส่วนในการพัฒนาธุรกิจในอนาคต


การแข่งขันเพื่อความอยู่รอดในธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย มีปัจจัยหลายอย่างทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้อยู่เต็มไปหมด แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ธุรกิจจะต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ นั่นคือเรื่องของการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาธุรกิจ

นวัตกรรมและการลงทุนด้านเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ เนื่องจากต้องทำการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคที่ทุกอย่างกลายเป็นดิจิทัลทั้งหมด นี่คือเทคโนโลยี 5 อย่างที่จะมีผลต่อการพัฒนาธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า

1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

AI เริ่มมีบทบาทสำคัญในธุรกิจเมื่อมีการรวมตัวของตัวขับเคลื่อนที่ทรงพลังสามด้านอย่าง การเติบโตของข้อมูลแบบเอ็กซ์โปเนนเชียล, เครือข่ายการกระจายที่มีความซับซ้อน และอัลกอริธึมที่ชาญฉลาด

ในช่วงที่ผ่านมาเราพบเห็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยเสียงที่ส่งผลต่อการนำเอา AI มาใช้มากที่สุด บริษัทชั้นนำกำลังปรับใช้ความคิดริเริ่มด้านเสียง หลายธุรกิจมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมก่อนและหลังการซื้อ มีการคาดการว่า 5% ของการซื้อขายทางดิจิทัลจะทำผ่านในรูปแบบของเสียงในปี 2566

2. อินเทอร์เน็ตของทุกอย่าง (IoT)

ผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ถูกฝังอยู่กับความสามารถของอินเทอร์เน็ต เท่ากับการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณและโอกาสใหม่ ๆ มากมาย การเชื่อมต่อที่แพร่หลายนี้ทำให้เกิดวิธีการติดต่อของมนุษย์กับสิ่งต่าง ๆ ที่เรียกว่า IoT

ในโลกอนาคตทุกสิ่งในสภาพแวดล้อมโดยรอบสามารถสื่อสารได้โดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์ ความก้าวหน้าครั้งล่าสุดในเรื่องต้นทุนของเซ็นเซอร์ที่ถูกลง, กำลังการประมวลผลที่เพิ่มมากขึ้น และแบนด์วิดท์ที่มากขึ้น ทั้งหมดทำให้อุปกรณ์ที่เปิดใช้งานอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น มันกำลังเป็นการเปิดประตูสู่ระบบนิเวศแบบใหม่

ในระยะยาว IoT มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการค้าในรูปแบบต่าง ๆ เช่นการสร้างจุดสัมผัสใหม่ระหว่างผู้บริโภคกับธุรกิจ รวมถึงการให้ข้อมูลที่ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์มากขึ้น คาดว่า IoT จะส่งผลให้มีการปรับปรุงแอปพลิเคชันที่สามารถตัดสินใจซื้อของแทนผู้บริโภคได้โดยอัตโนมัติ มันจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่อุปกรณ์ต่าง ๆ จะทำการสั่งซื้อของอย่าง ผงซักฟอกและหมึกพิมพ์โดยไม่ต้องรอให้คนทำการสั่งซื้อ

3. คลาวด์

Cloud Computing หมายถึงการจัดเก็บ, การเข้าถึงข้อมูล และโปรแกรม ผ่านทางอินเทอร์เน็ตแทนฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงไฟล์ได้ง่ายขึ้นเมื่อมีการจัดเก็บจากระยะไกลในระบบคลาวด์ เทคโนโลยีนี้เป็นทางเลือกที่ถูกกว่า ธุรกิจที่ทำการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตนเองบน Cloud Computing จะช่วยให้ธุรกิจมีตัวเลือกที่ยืดหยุ่นปลอดภัยและต้นทุนต่ำสำหรับการจัดการข้อมูล

สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ใช้งานการประมวลผลแบบคลาวด์ จะมีความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นและมีความยืดหยุ่นที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้งานเว็บไซต์ด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้และแสดงคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับลูกค้ามากที่สุดผ่านระบบคลาวด์

นอจากนี้ Cloud Computing ยังทำการปกป้องข้อมูลให้มีความปลอดภัย และมีความสะดวกในการตรวจสอบเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง การจัดการข้อมูลทุกอย่างจะเร็วขึ้นสะดวกขึ้นเมื่ออยู่บนคลาวด์

4. หุ่นยนต์ / ระบบอัตโนมัติ

AI และระบบอัตโนมัติมักจะใช้แทนกันได้ เนื่องจากทั้งสองเรื่องเกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ทางกายภาพและเครื่องจักรอื่น ๆ ที่ช่วยให้ ธุรกิจต่าง ๆ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามทั้งสองระบบมีความซับซ้อนแตกต่างกันไป การทำงานอัตโนมัติเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ที่สามารถทำงานได้โดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม AI นั้นเกี่ยวข้องกับความพยายามทำให้เครื่องจักรหรือซอฟต์แวร์เลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อทำงานแทนได้

ระบบอัตโนมัติกำลังถูกใช้งานในแอปพลิเคชันการค้าที่หลากหลาย การมอบหมายงานที่ไม่แน่นอนและซ้ำซากให้กับเครื่องจักรสามารถเพิ่มการผลิตและผลผลิตได้ อีกทั้งยังสร้างความปลอดภัยให้กับมนุษย์แล้วเพิ่มโอกาสให้มนุษย์ไปทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น นี่คือสิ่งที่โดดเด่นมากขึ้นในงานด้านการใช้แรงงานที่กำลังอยู่ท่ามกลางค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ทางออกจึงหลีกหนีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติไปไม่พ้น

5. Augmented Reality (AR) / Virtual Reality (VR)

เทคโนโลยี AR และ VR นำเสนอสิ่งที่ต่างไปจากโลกความเป็นจริง อุตสาหกรรมเกมเป็นช่องทางหลักในการบุกเบิกเรื่องนี้ แต่แบรนด์การค้าต่าง ๆ กำลังทำการทดลองเทคโนโลยีเหล่านี้มีส่วนช่วยในการผลักดันการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ความงาม, ผู้ค้าปลีกเครื่องตกแต่งบ้าน และธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจเหล่านี้กำลังทดสอบ AR และ VR เพื่อดูว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคได้อย่างไร

คาดการณ์ว่าแบรนด์จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยี AR / VR เพิ่มขึ้น ธุรกิจกำลังตื่นเต้นกับศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้ ความสามารถในการจำลองประสบการณ์ทางกายภาพแบบออนไลน์ ลูกค้าทุกคนสามารถใช้ชุดหูฟัง VR เพื่อเลือกซื้อสินค้าและค้นหาข้อมูลในรูปแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

อ้างอิง: